ลมหนาวผ่านมาทีไร
ขับรถไปข้างทางก็จะเห็นลานเบียร์เปิดชวนให้น่าหยุดพักละเลียดเบียร์ทุกครั้ง
แต่ละแบรนด์ต่างขยันทำกิจกรรมเรียกร้องความสนใจกันอย่างคึกคัก สมัยที่โฆษณาเหล้า
เบียร์ยังไม่ถูกห้ามพูดถึงโปรดักส์ตรงๆ สีสันของงานโฆษณาก็มีแง่มุมต่างๆเข้มข้น
ชวนติดตาม
พอมาถึงทุกวันนี้กฏหมายห้ามโฆษณาเหล้า
เบียร์ตรงๆออกมาเลยต้องทำโฆษณากันอ้อมๆ อ้อมไปอ้อมมา ไปหาเรื่องเพื่อน
มิตรสัมพันธ์ ไปจนถึงครอบครัว และทัศนคติต่อสังคม
แต่ยังไง
เบียร์ก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มของผู้ชาย ความรู้สึกต่อเบียร์ยังคงเป็นความแมน
มีความเข้มอยู่ข้างในถึงแม้ว่าจะเป็นเบียร์อ่อนก็ตาม
และไม่ค่อยได้เห็นผู้หญิงกินเบียร์กันนัก ในฐานะนักกินเบียร์มืออาชีพ
แม้ไม่ได้เรียนการตลาดก็พอเข้าใจภาพลักษณ์ของโปรดักส์ได้จากอารมณ์ของวงเหล้าเบียร์
ที่มีทั้งทุกข์สุข พูดคุยกันสารพันเรื่องชอบใจ และไม่ชอบใจ
อย่างที่โกวเล้งกล่าวคำคลาสสิกเอาไว้
ข้าพเจ้ามิได้ชอบแต่สุรา แต่รักในบรรยากาศของการรำ่สุรา...
ลองเปลี่ยนใหม่เล่นๆ...ข้าพเจ้ามิได้รู้เรื่องแบรนด์
แต่ติดใจในการสร้างบรรยากาศของแบรนด์ (สุรา)...
เวลาเครื่องดื่มในกลุ่มสังสรรค์อย่างเบียร์
มีการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ จะดูดีขึ้น ซื้อใจกันได้หรือไม่
ก็ขวดแรกที่สั่งมาวางบนโต๊ะนั่นแหล่ะ
พี่ชายโต๊ะข้างๆจะหยิบขึ้นมาดูแล้วทำหน้าเซอร์ไพรซ์กับเพื่อนในวงว่าไอ้เบียร์นี่มันหน้าตาดูดีขึ้นนะ
ทำให้ภาคภูมิใจลึกๆและเชื่อว่าเบียร์นี่มันต้องรสชาติดีแน่
ทั้งๆที่อาจจะสูตรเดิมนั่นแหล่ะ ลองแวะไปนั่งดูตามร้านเล็กๆข้างถนน หรือห้องแถวสิ
เวลาคนเลิกงานมาสุมหัวกันคุยปัญหา นินทาเจ้านาย ฯลฯ
นี่คือผู้บริโภคส่วนใหญ่มิใช่หรือ หาใช่ในผับหรูหรือแม้แต่ลานเบียร์สวยๆข้างห้างสรรพสินค้าใหญ่
รับลมหนาวนี้เบียร์ช้างปรับภาพลักษณ์ของตัวเองใหม่
จากตอนแรกๆที่ออกมาจำได้ว่ากลยุทธ์ซื้อเหล้าพ่วงเบียร์ทำให้ดูภาพลักษณ์เป็นเบียร์ราคาถูก
แถมขายพ่วงแบบดูไม่เจ๋งจริง รสชาติก็เลยกลายเป็นขื่นๆตามราคา กินแล้วปวดหัว
ด้อยคุณภาพกว่าเบียร์ไฮโซยี่ห้ออื่น
มาตอนนี้พอเดินผ่านร้านข้าวต้มเห็น P.O.P.
ของช้างสีเขียวสดสะดุดตา
มีความเย็นชุ่มชำ่ให้เห็นกับภาพกราฟฟิกที่มีนำ้หนักแสงเงาของสีเงิน สีทอง
ดูเป็นสามมิติ ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เหมือนแพงขึ้นถมเลย
เขาวาง positioning ของแบรนด์ได้ดี
แบ่งเป็น สายผลิตภัณฑ์สามแบบ Classic Draught Light ซึ่งเอามาทำเป็นหนังโฆษณาเกี่ยวกับลูกชาย
3 คน ของแม่ที่มีบุคลิกแตกต่าง แต่ก็ยังเข้มแบบลูกผู้ชาย
และยังมีทัศนคติทำดีเพื่อสังคมเหมือนคนอื่น
ถึงเป็นคนรุ่นใหม่แต่ก็มีความเป็นผู้ใหญ่ (Maturity) ถึงจะชอบกินเบียร์ว่างั้นเหอะ...
คิดว่าเบียร์ช้างน่าจะมาถูกทาง
ที่ไม่ได้พยายามทำโฆษณาแบบเด็กๆ เพียงเพราะไปตีความคำว่า คนรุ่นใหม่
แบบบางแบรนด์ทำ ที่บางทีอาจทำเอากลายเป็นเบียร์คุณหนู เบียร์เกาหลี(ทรงผม)
กันไปหมด หรือเดี๋ยวนี้บางเอเจนซี่พยายามให้ ครีเอทีฟรุ่นใหม่
ทำออกมาให้เป็นแบบ"รุ่นใหม่" ลืมไปรึปล่าวว่าครีเอทีฟรุ่นนี้เขาคออ่อน
กินแต่เครื่องดื่มคอลลาเจนบำรุงผิว
หนังโฆษณาก็ส่วนหนังโฆษณา แต่สื่อ Below
the line ก็ออกมาตอกยำ้ภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ที่จุดขาย
ทำกราฟิกให้ดี ดูมีเทคนิค โปรดักชั่นที่ร่วมสมัย
มันก็ดึงแบรนด์ขึ้นมาเทียบเท่ากับคู่แข่งด้วยค่าใช้จ่ายไม่มากแล้ว
ไม่ต้องไปหาไอเดียฟุ้งซ่านมาใส่ในสื่อแบบ Inkjet Banner, Bunting ให้ชาวบ้านร้านรวงเขาปวดหัว
หรือขับมอเตอร์ไซค์ผ่าน แบบไม่ได้รับรู้ความคิดฉลาดๆ ที่ไม่ทำให้จำแบรนด์ได้เลย
(ต่อให้พยายามทะเลาะกับ Supplier เพื่อไดคัท Bunting ไวนิลรูปร่างแปลกๆ
เพื่อโชว์ดีชายยยน์)
เห็นด้วยและสนับสนุนเบียร์ช้าง
ในฐานะผู้บริโภคคนนึง จากที่เคยแอนตี้ ดูถูกว่าเป็นเบียร์คุณภาพตำ่
ต้องนับว่าวิสัยทัศน์ของเจ้าสัวเปิดให้แบรนด์เกิดใหม่ขึ้นโดยไม่เสียเอกลักษณ์ของความเป็นเบียร์
ต่างจากบางแบรนด์ที่เคยชินกับฐานันดรเก่า กินบุญเก่าด้วยความยโสในความไฮซ้อไฮโซ
จนคนที่อยากสร้างสรรค์แบรนด์ให้ต่างเมินหน้า เหลือแต่โลโก้แห้งๆ (ที่พยายามจะเป็น corporate
identity) ให้เห็นเต็มเมือง
...หนาวนี้และหนาวต่อๆไปอาจจะต้องหนาว
นักการตลาดที่เชี่ยวชาญของโลกก็ยังบอกว่าทฤษฏีต่างๆเป็นเพียงแนวทาง
แต่ยอมรับว่ามีความไม่แน่นอนมากมายในโลกจริง...หรือการสร้างแบรนด์ส่วนใหญ่จะดี
หรือแย่อยู่ที่เจ้าของแบรนด์ครึ่งหนึ่ง หรือจะว่าอีกครึ่งเป็นของเอเจนซี่โฆษณา
หรือจะไปโทษเออีที่ยืนกุมไข่รับบรีฟ จากโจทย์การตลาดแบบ ให้"ทำเหียกอะไรก็ได้
มาดูก่อน..."
...แบรนด์จะดีไม่ดีอาจจะอยู่ที่กรรมของตัวเอง
http://ajarnwes.multiply.com/journal
No comments:
Post a Comment