Sunday, September 30, 2012

My Love October 2012


 
 
อดีต
ปัจจุบัน
อนาคต


คำทำนาย



ตำแหน่งที่ 1 อดีต
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE WORLD กลับหัว
คำทำนาย เรื่องของความรักมักไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง มักลังเล เอาแน่นอนไม่ได้ อยู่ดีๆ ก็เลิกกลางคัน ทำให้ความรักของคุณมักจะล้มเหลว
 
ตำแหน่งที่ 2 ปัจจุบัน
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE EMPEROR กลับหัว
คำทำนาย คุณมักจะขาดความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกผิดหวัง ขาดความทะเยอทะยาน เพราะจะทำอะไรก็มีแต่อุปสรรค และดูเหมือนความพยายามของคุณจะไม่เป็นผลเอาเสียเลย ลองมุ่งมั่น แน่วแน่ในสิ่งที่คุณมั่นใจว่าดีต่อตัวคุณแล้วพยายามอดทนอีกนิด ความรักของคุณอาจจะมีหวังขึ้นมาบ้างก็ได้ แต่ถ้ามันยังไม่เป็นผลก็ทำใจเสียเถอะ
 
ตำแหน่งที่ 3 อนาคต
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE CHARIOT
คำทำนาย คุณจะมีการแข่งขันในเรื่องความรัก จีบใครอยู่ก็ต้องพยายามหน่อย และเป็นตัวของตัวเองให้มากๆ ถ้ามีแฟนอยู่แล้ว ลองทำอะไรที่แตกต่างไปกับวันอื่นๆ สิ แฟนคุณจะประทับใจมาก ระวังเรื่องคำพูดให้ดีละ เพราะเรื่องปากเป็นข้อเสียของไพ่ใบนี้

My October 2012


คำทำนายสำหรับไพ่ที่ท่านจับได้

กดที่รูป Printer สำหรับคำทำนายแบบ Print version
ตำแหน่งที่ 1 สถานะของเจ้าชะตา
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE KNIGHT OF PENTACLES
คำทำนาย คุณเป็นคนที่มีหัวการค้ามาตั้งแต่กำเนิด มีหัวกับธุรกิจทางด้านการเงิน ชอบคิดไตร่ตรองรอบคอบ ไม่ชอบเสี่ยง ชอบทำมาหากิน ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน รู้จักอดออม รักสงบ ตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ รักเด็ก ชอบเลี้ยงสัตว์ มีจิตใจผูกพันกับธรรมชาติ เชื่อถือได้ เป็นคนน่าคบคนหนึ่ง

ตำแหน่งที่ 2 สถานการณ์ทั่วไปในช่วงนี้
ไพ่ที่คุณจับได้คือ FOUR OF PENTACLES
คำทำนาย ถึงช่วงเวลาที่คุณต้องรัดเข็มขัดแล้วล่ะ การเงินของคุณกำลังร่อยหรอลงทุกทีๆ คุณต้องเก็บเงินให้มากกว่านี้เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นในวันข้างหน้า

ตำแหน่งที่ 3 สิ่งที่มุ่งหวัง
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE KING OF CUPS
คำทำนาย คุณไม่อยากจะต้องเหน็ดเหนื่อย และเครียดเรื่องการงานการเรียนมากนัก คุณกำลังต้องการจะได้คนที่มีจิตใจงดงามมาคอยช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาและแบ่งเบาภาระให้คุณ

ตำแหน่งที่ 4 อดีตที่ผ่านมา
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE HIEROPHANT
คำทำนาย คุณมีคนช่วยเหลือที่ดี พร้อมที่จะช่วยคุณเสมอ ยามมีทุกข์ก็จะมีเพื่อนหรือคนใกล้ชิดคอยอยู่เคียงข้าง อย่าลืมรักษาคนใกล้ชิดเหล่านั้นเอาไว้ดีดี

ตำแหน่งที่ 5 สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE QUEEN OF CUPS
คำทำนาย สตรี ผู้อ่อนหวาน จิตใจดี เหมาะแก่การเป็นแม่บ้าน แม่ศรีเรือน ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตคุณ อาจจะหมายถึงการมาถึงของความรักและเนื้อคู่ก็เป็นได้

ตำแหน่งที่ 6 อนาคตที่จะเกิดขึ้น
ไพ่ที่คุณจับได้คือ TWO OF PENTACLES
คำทำนาย ให้ระวังจะมีปัญหาทางด้านการเงิน อาจจะมีเรื่องเงินขาดมือ ต้องเคลียร์เรื่องหนี้สิน หรือต้องหมุนเงินเป็นพัลวัน

ตำแหน่งที่ 7 ปัญหาและแนวทางแก้ไข
ไพ่ที่คุณจับได้คือ The HIGH PRIESTESS
คำทำนาย ปัญหาของคุณคือเรื่องการควบคุมอารมณ์ และคำพูด ควรระวังให้ดี อารมณ์คุณเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย โดยที่คุณยังไม่เข้าใจตัวเอง อย่าคิดอะไรฟุ้งซ่านให้มันมากนัก มีแต่จะทำให้มีปัญหากับคนรอบข้าง

ตำแหน่งที่ 8 อิทธิพลรอบข้าง
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE FIVE OF PENTACLES
คำทำนาย ช่วงนี้จะโดนคนยืม เรี่ยไรเงิน หรือมีเหตุให้ต้องเสียเงินอย่างไม่คาดคิดอย่างรถเสียหรือซ่อมบ้าน และถ้าให้คนยืมเงินก็จะไม่ได้คืน ช่วงนี้จึงไม่ควรไปลงทุนร่วมกับผู้อื่นเพราะอาจจะเจ๊งหรือโดนโกงได้ ยิ่งโชคจากการพนันหรือเล่นหุ้นยิ่งไม่มีเลย จึงควรอยู่เฉยๆ ไว้ก่อน

ตำแหน่งที่ 9 ความคิดภายในใจ
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE THREE OF CUPS
คำทำนาย คุณต้องการที่จะมีความรักที่ดี มีเพื่อนที่ดี และมีความสุขกับความรัก นอกจากนี้ยังชอบการเลี้ยงสังสรรค์ และมีเกณฑ์ความต้องการอยากมีลูก

ตำแหน่งที่ 10 บทสรุป
ไพ่ที่คุณจับได้คือ THE FOUR OF SWORDS
คำทำนาย ทำอะไรควรดูให้ดีก่อนก่อนตัดสินใจทำอะไรกับใคร ทำธุรกิจควรคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ ระวังติดโรคจากเพื่อนหรือคนสนิท รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ

Friday, September 28, 2012

NY TIMES.com

ART&DESIGN


http://www.nytimes.com/pages/arts/design/index.html

Pollock's Fractals

Pollock's Fractals
That isn't just a lot of splattered paint on those canvases, it's good mathematics


Fractal Geometry

Yale University
Michael Frame, Benoit Mandelbrot (1924-2010), and Nial Neger
September 28, 2012

Fractal Geometry กฎการทำซ้ำ // มิติที่ 0-10



มิติที่ 1½ Fractal กับมุมมองที่เกินกว่า 1 มิติมาอีกหน่อย

ในชีวิตประจำวัน เรามักจะคุ้นเคยกับ มิติที่ 0 คือจุด มิติที่ 1 คือเส้น มิติที่ 2 คือพื้นที่ และ มิติที่ 3 คือความเป็นรูปทรง บางคนอาจรู้จักเพิ่มเติมว่า มิติที่ 4 คือเวลา มิติที่ 5 คือแรงโน้มถ่วงและสนามแม่เหล็กไฟฟ้า มิติที่ 6 คือมิติเวลาที่สอง มิติที่ 8 คือมิติ Octonions มิติที่ 10 คือมิติแห่ง String theory อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดในการรับรู้ของมนุษย์ เราไม่อาจรับรู้ได้ถึงมิติในอันดับสูงๆ เพียงแต่สามารถพิสูจน์ได้ผ่านคณิตศาสตร์
ว่าแต่ มิติที่ 1½ เป็นอย่างไร มิติที่ 1½ สามารถอธิบายได้ผ่าน Fractal geometry ซึ่งก็คือรูปแบบที่เรียงต่อกัน แต่ด้วยขนาดที่ต่างกันไปอย่างไม่รู้จบ นักคณิตศาสตร์ชื่อ Benoit Mandelbrot ได้อธิบายในหนังสือของเขา “The Fractal Geometry of Nature” ในปี 1982 ว่า ก้อนเมฆก็ใช่ว่าจะเป็นทรงกลม ภูเขาก็ใช่ว่าจะเป็นทรงกรวย ชายฝั่งทะเลก็ไม่ได้เป็นส่วนโค้งอย่างที่เห็น มิติที่แท้จริงที่ของสิ่งต่างๆ ไม่ได้ดูลงตัวเป็นค่าง่ายๆ อย่างที่เห็นกัน หากแต่มันช่างหยาบกร้านนัก

ลักษณะของ Fractal geometry อาจจะสังเกตได้จาก รูปแบบการวางตัวของแม้น้ำ แนวชายฝั่งทะเล ลักษณะของฟ้าผ่า เป็นต้น แต่ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดคือเกล็ดหิมะ ดูผ่านๆ เราก็เห็นว่ามันมีกิ่งก้านที่งอกต่อจากกันออกมาเป็นรูปแบบเดียวกันเพียงไม่กี่กิ่ง หากแต่ดูให้ลึกลงไป ก็พบว่าแท้จริงแล้วมีหลายกิ่งเล็กๆ ที่งอกต่อออกมาอย่างไม่รู้จบ
คำถามสุด classic คือ ชายฝั่งทะเลของสหราชอาณาจักรยาวเท่าไหร่? หากจะให้ตอบแบบคนทั่วไปก็คือ ให้ไปเปิดดูในหนังสือแผนที่ทางด้านภูมิศาสตร์แล้วก็จะได้คำตอบ แต่หากจะให้ตอบด้วยความเป็นจริง ต้องถามกลับไปว่า “ใช้อะไรวัดหล่ะ?” ถ้าใช้ไม้บรรทัดวัดจากภาพถ่ายดาวเทียมก็ได้ค่าหนึ่ง ถ้าวัดจากภาพถ่ายดาวเทียมที่พิมพ์ออกมาแผ่นใหญ่ๆ หน่อย ก็ได้อีกค่าหนึ่ง ถ้าลงไปเดินรอบเกาะอังกฤษวัดด้วยตัวเอง โดยใช้ไม้เมตรก็ได้อีกค่าหนึ่ง หรือถ้าจะให้ใช้ micrometer มาวัดเม็ดทรายทีละเม็ดที่เรียงต่อกันรอบชายฝั่งก็ได้อีกค่าหนึ่ง และสิ่งที่น่าสนใจคือ ยิ่งวัดละเอียดเท่าไหร่ ค่าที่ได้ยิ่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ นี่ถือเป็นตัวอย่างที่ใช้ในการอธิบายความมีอยู่ของ Fractal geometry
ในงานวิศวกรรม เราอาจเห็นได้จากความเรียบผิวของวัสดุ หากพิจารณาจากผลแห่งมิติที่ 1½ พบว่าผิวงานที่เรียบอย่างแท้จริงนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะความเรียบที่เห็น แท้จริงแล้วมันยังมีสามเหลี่ยมเล็กๆ แตกแขนงออกจากพื้นผิวที่ดูเรียบ ออกไปอีกมากมาย สามารถพิสูจน์ได้จากการใช้ microscope กำลังสูง จะเห็นความไม่ต่อเนื่องของพื้นผิว เนื้อวัสดุ การเรียงตัวของผลึก dislocation การเรียงตัวของ atom ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนไม่อาจรู้ได้ว่าความเรียบที่แท้จริงอยู่ที่ใด ว่ากันอีกนัยหนึ่งก็คือ ค่าที่วัดได้ไม่ว่าเป็นความเรียบผิว ขนาดชิ้นงาน ต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นค่าประมาณทั้งสิ้น ซึ่งอธิบายด้วยหลักทางสถิติที่เรานิยมใช้กันบ่อยที่สุดก็คือ การหาค่าเฉลี่ย โดยมีจุดประสงค์เพื่อเฉลี่ยออกของผลแห่งความไม่ต่อเนื่องและ error ต่างๆ ที่เกิดขึ้น สำหรับใช้ประมาณค่าจริงที่ไม่มีวันรู้ได้ (และถ้าจะว่ากันตาม Fractal geometry ก็อาจจะกล่าวได้ว่า ค่าที่แท้จริงมักจะมากกว่าค่าที่ประมาณอยู่สักหน่อย) ในทางวิศวกรรมวัดละเอียด ข้อจำกัดของการวัดอาศัยค่าอยู่ 2 ค่า คือ resolution (ค่าที่น้อยที่สุดที่สามารถแยกแยะได้) และ delimitation (ค่าที่มากที่สุดที่ไม่สามารถแยกแยะได้) 

ดังนั้น หากมีใครซักคนมาถามว่า “วัตถุนี้ขนาดเท่าไหร่?” ต้องถามกลับไปว่า “ใช้เครื่องมือวัดอะไรหล่ะ?” เพราะโลกหยาบๆ ใบนี้มันยากที่จะเข้าใจได้ กับมิติพิศวงขาดๆ เกินๆ อย่างมิติที่ 1½ นี้แล

http://www.viboon.org/2009/08/28/%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1%C2%BD-fractal-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80/


Beyond space and time: Fractals, hyperspace and more


We don't have any trouble coping with three dimensions – or four at a pinch. The 3D world of solid objects and limitless space is something we accept with scarcely a second thought. Time, the fourth dimension, gets a little trickier. But it's when we start to explore worlds that embody more – or indeed fewer – dimensions that things get really tough. 



These exotic worlds might be daunting, but they matter. String theory, our best guess yet at a theory of everything, doesn't seem to work with fewer than 10 dimensions. Some strange and useful properties of solids, such as superconductivity, are best explained using theories in two, one or even no dimensions at all. 



Prepare your mind for boggling as we explore the how, why and where of dimensions.
0D

On the dot

(Image: laverrue / Ludovic Bertron)
Surely, with no dimensions there's no room for anything, so a 0D space must amount to nothing at all – mustn't it?
1D

Walk the line

(Image: Andrew Dunsmore / Rex Features)
Add one dimension, and physics starts to look a little familiar
1½D

Fractal landscapes

(Image: lrargerich; / Luis Argerich)
Welcome to the irregular landscapes between the familiar worlds of one, two and three dimensions
2D

Vistas of flatland

(Image: Fiona Bradley)
Physics in one dimension is too simple to be satisfying, and three dimensions are complicated and messy. Two-dimensional "flatland" is just right
3D

We're here because we're here?

(Image: Mila Zinkova)
Flatland and multi-dimensional hyperspace make fine playgrounds for the mind, but our bodies seem stuck in a space of three dimensions
4D

Time, the great deceiver

(Image: Gavin Hellier / Robert Harding / Rex Features)
Space consists of three dimensions. Time, we are told, is also a dimension. So how come it is so different to the others?
5D

Into the unseen

(Image: Ethan Hein)
By adding a fifth dimension to space-time, it is possible to show that gravity and electromagnetism are two aspects of one and the same force
6D

Two-timing

(Image: FilmNut / Cam Russell)
Whenever physicists invoke extra dimensions, they always seem to mean the space kind. Why can't we have more time?
8D

Surfer's paradise

(Image: Image Source / Rex Features)
Eight dimensions is a rarefied space that is home to the octonions - "the crazy old uncle nobody lets out of the attic"
10D

String country

(Image: Wiki Commons)
Ten dimensions, and we finally reach the fabled land of string theory






Monday, September 24, 2012

The First Wife's Club

http://www.doseries.com/serie534.html
http://video.mthai.com/player.php?id=24M1298810176M0&sinzaa=1
bell

DIY Grown-Up Toys: 12 Life-Sized ‘Punch-Out’ Project Kits

punch out model home objects
punch out model art kits
punch out giant diy kits

Remember those tiny toys and miniature models that required you to ‘punch out’ little pieces and put them together? These are like that – but huge beyond belief, letting you make your own … well, just about anything. Warning: batteries not included – and objects in these photos may be much much larger than they appear.

Some assembly required’ takes on an entirely new meaning with these extra-large punch-outs. Unfortunately, though, like their smaller counterparts these are made for display only. While the boat does actually (somewhat amazingly) float, the full-scale cars, scooters, bikes, engines and other household objects both large and small do not actually function like their real-life equivalents.

Some have been hung like works of high art on bare white walls. Others appear temporarily in public spaces and relate to a larger built environment, like the boat floating on the water or the scooter also pictured above. This latter project, for example, is not only situated in an apt structure (an indoor parking lot) but it also draws on the color palette of the painted columns, floors and walls around it.

Still, there is something sublime about seeing artist Michael Johannson transform even-more-ordinary everyday objects into a world of strange and surreal (but still somehow life-like) ‘toy model’ versions of themselves. His subjects range from large vehicles and mid-sized push-carts, Christmas-tree stands and beds all the way down to hair dryers, blenders and other small home appliances.

That daily familiarity – like pieces and parts of our own bodies – combined with our childhood associations with do-it-yourself model kits makes you want to reach out and make these things come alive by punching them out and putting them together. In the end, they are simply metal sculptures … unless we have the imagination to make them become much much more.

TYPOGRAPHY

typography-transforming-3d-lettering
typography-real-life-human-font
typography-metal-3d-font
typography-physical-books-shelves-font
typography-chair-furniture-font
typographic-alphabet-word-rug-design


organic typography
http://blog.onpaperwings.com/2008_10_01_archive.html


The ‘font’ itself is simple, and the process strangely circular – epic amounts of work are put into placing all of the pieces in three-dimensional space, all to set the stage for single photograph of what looks like a two-dimensional letter.


Dan Tobin Smith has done everything from advertising and interiors to still lifes, but these bold and elemental alphabet shots stand out from his expressive and varied portfolio.


The material palette is as broad as it gets – from the broken boards of an old floor to bright flowers and back-lit medical beakers, either defining the edges or interior of each typographical element in this ongoing series



This is one of those cases where setting parameters and creating consistency through recognizable symbols is (ironically) liberating, setting up a series of colorful (as well as black-and-white) contrasts from one moment to the next.
http://dornob.com/artistic-alphabet-still-life-photography-of-life-sized-letters/