Saturday, May 29, 2010

ถ้าฉันเป็นเธอ บอล จารุลักษณ์

พอดีไปเจอ FB ของคุณเจี๊ยบ คงเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ Ananda มั๊ง ไม่แน่ใจ เป็นเบื้องหลังการถ่ายทำ MV นี้ น่าสนใจค่ะ พอมาหาใน youtube GOSHH!!! This is so cute. Love it ;D

สาธิต กาลวันตวานิช Propaganda

เฮ๊ย เมิงต้องฝึกดูงานที่สุดยอดก่อน แล้วค่อยมาคิดย่อยว่ามาจากไหน

พี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์

'

คนเรามันต้องการกำลังใจ ต้องการแรงบันดาลใจ ต้องการผู้นำทางความคิด เพื่อหล่อหลอมให้เราเป็นเราในวันต่อๆไป

"I will do what I like & I believe"


This is a MUST ;)



"LowwRong"(un)cover

See before 25.06.10

@ Creative House Bangkok inspired by Toyota (SQ)

สามัคคี

This is human... I do agree

Tep photogeapher 5555




I decided to buy my own photos...for $60 from The Studio that I was a model myself. I just wana laugh 5555555. I think I will keep this 2 photos as starting point that I can shoot this kind of shots too !!! ;)

ส่วน1 ของความคิด(2)



เช้าวันหนึ่ง ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่พูดถึงการทุจริตในสุวรรณภูมิ ทุจริตกันตั้งแต่ถมทราย ถมดิน เทปูน โครงสร้างเหล็ก สายไฟ ท่อน้ำ รถเข็นสัมภาระ พื้น เพดาน สุขภัณฑ์ โรงแรม เก้าอี้พัก งบประมาณรักษาความปลอดภัย งบทำความสะอาด งบประมาณซ่อมแซมดูแล งบประมาณแสนล้านละลายจนในที่สุดอาจต้องย้ายกลับไปดอนเมือง ในที่สุดเราก็ได้สนามบินที่น่าอับอาย หน้าโง่ กระจอกๆ ประจานสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ขึ้นลงสนามบินแห่งนี้ ทุกวัน ทุกคืน
จากนั้นผมก็เริ่มคิด…คิด…คิดง่ายๆ ว่า คำถามคือ ใครเป็นคนทุจริต คำตอบคือ คนบางคนที่มีส่วนพัวพันในรัฐบาลชุดที่แล้ว ดตส. กำลังตรวจสอบว่ามีใครบ้าง แล้วอยู่ดีๆ ผมก็หัวเราะขึ้นมาคนเดียว…ก็มันตลกนี่ครับ ลึกๆ แล้ว ผมว่าคนที่โกงจะต้องเป็นคนที่เก่งเรื่องการเงิน เรื่องบัญชี เรื่องเศรษฐศาสตร์ เรื่องกฎหมาย และคนพวกนั้นต้องเป็นคนฉลาด แต่ลึกๆๆๆ ลงไปยิ่งกว่านั้น ผมกลับคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่โง่มาก เพราะอะไรเหรอครับ เพราะว่าเรื่องเงิน เรื่องบัญชี เรื่องเศรษฐศาสตร์ เรื่องพวกนั้นส่วนใหญ่จะคำนึงถึงเรื่องเงินเป็นหลัก แต่คุณอย่าลืมว่า เงินเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ เราเกิดมาเป็นคน เราต้องการอะไร ถ้าไม่ใช่ความสุข
คนที่โกงเอาเงินของประชาชน เงินบริสุทธิ์ เงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของคนไทยทั้งประเทศ เอามาเป็นของตัวเอง พวกเขาคงคิดว่า เขากำลังทำธุรกิจที่ไม่ต้องมีต้นทุน ก็ไม่ต้องทำอะไร โกงอย่างเดียวก็ได้เงินมาแล้ว ผมถามจริงๆ พวกคุณแน่ใจหรือว่าไม่ต้องเสียต้นทุน? งั้นเรามาดูกันว่าต้นทุนที่ว่านั้นคืออะไร
ก็เริ่มจากเมื่อไอ้คนที่โกงเพราะว่ามันอยากได้เงิน อยากมีความสุข อยากรวยแบบด่วนได้ อยากได้เงินที่ไม่ใช่ของตัวเอง แต่เป็นของประชาชน คนที่โกงมันก็กลัว ระแวงว่าใครจะจับได้ ก็ต้องสร้างหลักฐานปลอม ล็อบบี้ เจรจาหาคนมาร่วมด้วย หาผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย หลบหลีก หนีความผิด ยิ่งพอเปลี่ยนรัฐบาลที เปลี่ยนขั้วอำนาจที ก็หนาวขี้ ลนลาน ติดต่อคนโน้นคนนี้ให้วุ่นวายไปหมด ยัดเงินยัดทองปิดปากกันแหลกลาน และยิ่งโทรศัพท์ดังตอนดึกๆ ก็ระแวง เมื่อคนโกงมารวมตัวกัน มันก็โกงกันไปโกงกันมา โกงกันเอง ยิ่งโกง ก็ยิ่งระแวง กลัวโดนฆ่า ก็ไปหาซื้อรถกันกระสุนมาใช้กัน จะไปไหนมาไหนคนเดียวก็ไม่ได้ ต้องจ้างบอดี้การ์ดเต็มไปหมด โกงมากๆ ก็เริ่มเครียด กลัวคนจับได้ กลัวติดคุก ก็เลยต้องโกหก คราวนี้หลักการในการโกหกคือ เมื่อคุณเริ่มโกหกเรื่องแรก คุณก็จะต้องโกหกเรื่องที่ 2 3 4 5… ไปไม่สิ้นสุด โกหกมากๆ ต้องใช้ความคิด ใช้สมองเยอะ ก็เริ่มสับสน เริ่มเครียด พูดอะไรก็ต้องระมัดระวัง คุยกันก็ต้องแอบๆ ซ่อนๆ เสียงเบาๆ ลุกลี้ลุกลน กลัวคนดักฟัง จะไปร่วมธุรกิจดีๆ กับคนดีๆ ก็ไม่ได้ เพราะคนดีส่วนใหญ่เขาเป็นคนฉลาด เขารู้ เขาไม่เป็นหุ้นส่วนกับคนโกงๆ สุดท้ายก็ต้องทำธุรกิจกับพวกเดียวกัน ชั่วเหมือนๆ กัน ทำธุรกิจด้วยความระแวงซึ่งกันและกัน สุดท้ายก็ฉิบหายอีก พอได้ข่าวว่าเปลี่ยนขั้วอำนาจก็ซวย กลัว หันหน้าไปหาใครก็ไม่มีใครช่วย ไม่มีใครอยากซวยไปด้วย จากนั้นครอบครัวก็เริ่มไม่มีความสุข ผัวโกง เมียเครียด ลูกเครียด เมียที่ร่ำรวยจากการโกงของผัวและลูกที่ร่ำรวยจากการโกงของพ่อ อยู่ในสังคมชั้นสูง มีหน้ามีตา ก็เริ่มเครียด กลัวว่าสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองมีอยู่ในวันนี้จะหายหมดไป กลายเป็นความฝัน
มันโหดร้ายมากนะครับ ที่มีเงินร้อยล้าน พันล้าน อยู่ดีๆ แล้ววันรุ่งขึ้นมันหายไปเฉยๆ กลับคืนเป็นสมบัติของแผ่นดิน จนกระทั่ง เมียอาจจะฆ่าตัวตาย ลูกที่น่ารักทั้งหลายอาจจะต้องติดยา และเมื่อเวรกรรมมันเดินทางมาหาแบบติดจรวด เมื่อถึงเวลานั้น เงินสักพันล้าน หมื่นล้าน มันก็ช่วยคุณไม่ได้ กรรมเป็นผลจากการกระทำ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ถ้าคุณปลูกต้นมะม่วง มันจะไม่ออกผลเป็นทุเรียนหรอกครับ คุณเอาเงินของใครเขาไป สักวัน มันจะต้องกลับคืนมาเป็นของคนคนนั้น ไม่ช้าก็เร็ว น่าเสียดาย ที่คนพวกนั้นเก่งเรื่องช่องว่างของกฎหมาย เรื่องการเงิน เรื่องบัญชี แต่สิ่งที่เขาพลาด ไม่ได้ศึกษา และเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ สิ่งนั้นคือพุทธศาสนา ลองคิดดู ถ้าพวกเขาเป็นคนสุจริตทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนจริงๆ เขาอาจจะไม่เครียด เขาจะมีความสุข ลูกเมียก็จะภูมิใจ ไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น โลกสว่างสดใสทุกวัน สมองแจ่มใส ไร้โรคภัย สุขภาพจิตดี มีปัญญา ใครพบ ใครเจอ ใครก็อยากรู้จัก อยากร่วมงาน อยากทำธุรกิจด้วย เวลาจะพูดอะไรก็พูดได้อย่างเปิดเผย จะพูดสิบครั้ง ร้อยครั้ง ก็พูดได้เหมือนเดิม เพราะเขาพูดความจริง เดินตัวเบาสบาย ไม่ต้องแบกต้นทุนของการทำเลว ทำชั่ว ผมอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น อ่านข่าวการแก้ต่างของทนายฝ่ายคนโกง อ่านไปก็หัวเราะไป หึ…หึ…หึ… เฮ้อ! ทำไมพวกแม่งโคตรโง่หยั่งงี้ก็ไม่รู้
ที่มา: นิตยสาร สารกระตุ้น ฉบับที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550

ส่วน1ของความคิด (1)



คนทุกคนเวลาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ มักจะมีเรื่องที่น่าตื่นเต้น ผมก็เหมือนกันครับ เมื่อเมษายนหลังจากที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งปีผมได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น เรื่องที่น่าตื่นเต้นของผมมีอยู่หลายเรื่อง ได้แก่ สีของดอกซากุระที่บานสะพรั่งตัดกับสีดำของพื้นถนน, การขึ้นรถไฟใต้ดิน, ภาษาที่แตกต่าง, อาหารญี่ปุ่นที่อร่อยมากๆ ทัศนียภาพของเมืองเกียวโตที่สวย สะอาด ถึงสะอาดมาก จนผมอยากก้มลงไปเลีย ยังไม่นับทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำที่สวยเหมือนภาพเขียน จนคนไทยหน้าโง่อย่างผมอยากแก้ผ้ากระโดดลงไปเล่นน้ำ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดของผม เรื่องนั้นเกิดขึ้นที่วัดเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองเกียวโต ตอนนั้นมีการซ่อมทางเดินเล็กๆ ภายในวัด ผมเห็นช่างซ่อมพื้นกำลังเรียงหินทำเป็นถนนโดยมีดินดำอัดอยู่ในช่องว่างระหว่างหิน ตอนที่ผมไปถึง ทางเดินนั้นเกือบเสร็จเรียบร้อยเหลือเพียงก้อนหินไม่กี่ก้อน ที่คนงานคนหนึ่งกำลังตัดสินใจว่าจะเอาหินขนาดเท่าฝ่ามือเหล่านั้นยัดใส่ลงไปอย่างไร การเรียงหินทำเป็นพื้นถนนไม่ง่ายครับ เนื่องจากก้อนหินมีรูปทรงอิสระ และหิน ั้นเป็นหินจากธรรมชาติ สีต้องดำใกล้เคียงกันและองค์ประกอบของการวางจะต้องมีจังหวะจะโคน ผมยืนดูคนงานคนนั้นที่พยายามจะเอาหินปูลงไปบนพื้นถนน เค้าวางแล้ววางอีก เล็งแล้วเล็งอีก เป็นเวลากว่าสิบห้านาที ถ้าเป็นคนงานบ้านเราคงโดนผู้รับเหมาด่าแน่ๆ เชื่อมั้ยครับ สิบห้านาทีผ่านไป เค้าก็ยังเลือกหินอยู่ เก้ๆ กังๆ เล็งแล้วเล็งอีก ทันใดนั้น! เรื่องตื่นเต้นก็เกิดขึ้น หัวหน้าคนงานท่าทางล่ำสันกำลังเดินตรงมาที่คนงานคนนั้น ผมคิดอยู่ในใจ โดนแน่ๆ หมอนี่ต้องโดนแน่ๆ ผมเกือบจะเดินออกไปเพราะไม่อยากได้ยินคนทะเลาะกัน ด่ากัน ยิ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วคง งง พิลึก แต่ภาพที่ผมเห็นกลายเป็นว่าหัวหน้าคนงานย่อตัวลงปรึกษากับคนงานคนนั้น ทั้งคู่ช่วยกันเลือกหินที่ดีที่สุด สวยที่สุด ลงใส่ที่ว่างของพื้นถนน เพื่อให้ถนนเล็กๆ ในวัดเล็กๆ แห่งนั้นสวยที่สุด เป็นเวลากว่าสามสิบนาทีที่ทั้งคู่เลือกหินได้แล้วใส่ลงบนพื้นถนนในวัด เชื่อมั้ยครับว่าถนนเล็กๆ เส้นนั้นสวยมาก มีระเบียบ มีศิลปะ สวยเหมือนถนนเกือบทุกที่ในญี่ปุ่น


*************** ***************

ในระหว่างที่นั่งเครื่องบินกลับมาเมืองไทยมีคำถามเกิดขึ้นมากมายในหัวของผม ทำไมญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่สวยงามมาก? เป็นเพราะว่าญี่ปุ่นต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติต่างๆ อันเลวร้าย จึงต้องเรียนรู้วิธีป้องกันและเอาตัวรอดให้ได้ ภัยธรรมชาติต่างๆ มีมากมาย สึนามิ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด โหดๆ ทั้งนั้น เพราะฉะนั้น ในช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นมีชีวิตอยู่จึงต้องเป็นเวลาที่มีค่า และควรมีความสุขที่สุด? สิ่งที่คนญี่ปุ่นทำคือรักษาสิ่งที่มีอยู่ รักษาธร มชาติที่สวยงามให้อยู่กับตัวเองและลูกหลานได้นานที่สุด ทุกลมหายใจของคนญี่ปุ่น สิ่งที่ทำต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด การจะสร้างตึกแต่ละตึกคิดแล้วคิดอีก คิดเรื่องสิ่งแวดล้อม คิดเรื่องวัฒนธรรม คิดเรื่องทัศนียภาพ ผมแปลกใจว่าทำไมเวลาคลื่นยักษ์ที่เรียกว่าโลกาภิวัฒน์ พัดพาไปประเทศญี่ปุ่น ประเทศนี้โดนผลกระทบน้อยมาก คำตอบ อาจเป็นไปได้ว่า ศาสนาเซน และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นหยั่งรากลึก แผ่กระจายยึดแผ่นดินไว้อย่างแน่นหนา ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ปิดอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทร สิ่งสำคัญที่เค้าเรียนรู้ คือ การเรียนจากตัวเอง เรียนรู้มานับหลายร้อยปี นั่นหมายถึงว่า ก่อนที่จะรับวัฒนธรรมอื่นเข้ามาในประเทศ เค้ารับในช่วงเวลาที่วัฒนธรรมเค้าแข็งแรงแล้ว จึงกลายเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ สิ่งที่เราทำกับประเทศเรามาเป็นเวลาช้านานคือการตัดรากของวัฒนธรรมแบบเงียบๆ เริ่มจากระบบศักดินา ดูถูกคนที่เป็นชาวบ้าน ดูถูกภูมิปัญญาของเราเอง ใครโง่ๆ ก็เรียกว่าไอ้ควาย ทั้งที่ควายทำนาเลี้ยงข้าวให้เรากิน (ผมท้าไอ้คนที่ด่าด้วยว่าถ้าให้ไถนาแข่งกับควายแม่งทำไม่เป็น) ละคร นวนิยายต่างๆ ล้วนแต่ยกย่องส่งเสริมและพูดถึงชนชั้นสูงทั้งสิ้น โดยเนื้อหาของละครหรือนวนิยายส่วนใหญ่น้อยเรื่องมากที่จะบอกว่าชาวนาหรือชนชั้นส่วนใหญ่ของประเทศจะเป็นผู้ชนะ ส่วนมากจะสะท้อนให้เห็นถึงความรันทดอดอยาก หิวโหยและต้อยต่ำ ปลูกฝังกันมากๆ เข้า ช่องว่างระหว่างชนบทและเมืองก็ยิ่งห่างกัน ทั้งๆ ที่องค์ความรู้ส่วนใหญ่ของประเทศ ความเฉลียวฉลาด ภูมิปัญญา เช่น เวชศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธร ม ปรัชญา ฯลฯ อยู่ในชนบททั้งสิ้น ประวัติศาสตร์ชนชาติเราไม่เคยบันทึกวิถีชีวิตของไพร่ แถมชนชั้นนำของประเทศก็ยังชื่นชมตะวันตก เห็นฝรั่งเป็นพระเจ้า และด้วยการปกครองของประเทศ ถ้าอยากให้ปกครองกันง่ายๆ มีเคล็ดลับก็คือว่า ต้องทำให้คนในประเทศนั้นโง่และอ่อนแอ ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ในการปฎิวัติที่กัมพูชาและมีการฆ่าล้างเผ่า 1000 คนที่จะถูกนำไปฆ่ากลุ่มแรกๆ ก็คือพวกปัญญาชนทั้งหลาย พูดง่ายๆ ก็คือปัญญาชนคนฉลาดจากชนบทถูกกีดกันไปจากประเทศนี้ เมื่อคนโง่ไม่มีความรู้พูดอะไรก็เชื่อ ปัญญาชนคนมีความคิดจะนำเสนอหรือพูดอะไร ก็ล้วนแล้วแต่เจอแรงเสียดทานจากอำนาจทั้งนั้น ทำให้คนส่วนใหญ่โง่ยังไม่พอ ทำให้คนดีท้อแท้อีก ภูมิประเทศของกรุงเทพฯ ควรจะเป็นคลองก็ทำเป็นถนนมันซะ เมื่อก่อนชุมชนต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วประเทศจะมีวัดเป็นศูนย์กลาง เป็นโรงเรียน เป็นที่ยึดเหนี่ยวก็เปลี่ยนไป ส่วนกลางเข้าแทรกแซง ทำลายรากและวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ย่อยยับ ด้วยการทำให้ระบบการศึกษาเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งๆ ที่วัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ต่างกัน บ้านทรงไทยแถวอยุธยาทุกบ้านจะมีใต้ถุนเพราะน้ำท่วมถึงอยุธยาทุกปี พอน้ำท่วม ใต้ถุนบ้านกลายเป็นท่าเรือ ใช้พายเรือไปมาหากันระหว่างบ้าน พูดง่ายๆ เค้ารู้อยู่แล้ว ่าน้ำต้องท่วมทุกปี เวลาน้ำมาทุกครั้งจะพัดเอาอินทรียสารที่มีประโยชน์ต่อดินเข้ามาด้วย อยุธยาจึงอุดมสมบูรณ์ แต่ตอนนี้เราสร้างเขื่อน เราสร้างบ้านจัดสรร น้ำท่วมที เศร้าที สมุนไพร ตำราเวชศาสตร์โบราณขาดการสานต่อ หันไปใช้ยาสมัยใหม่ ทั้งๆ ที่ของเราดีกว่าเยอะ ร้านโชห่วยเล็กๆ ที่เคยยึดเหนี่ยวคนในชุมชนก็ตายไปด้วยซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ บทสนทนาในร้านค้ากลายเป็นบทท่องจำ เข้าไปสิบครั้งพูดเหมือนเดิมทั้งสิบครั้ง จนมาถึงสมัยนี้ประชาชนคนไทย เด็กๆ สมัยใหม่เหลียวซ้ายแลขวาหาความเป็นไทยไม่เจอ กลายเป็นคนเลื่อนลอย เจออะไรเท่ เก๋ ก็ยึดเอาไว้ก่อน รู้มั้ยครับ ชนชั้นสูงส่วนใหญ่นิยมส่งลูกไปเรียนโรงเรียนนานาชาติ เด็กๆ ที่เรียนจากโรงเรียนนานาชาติ เค้าไม่ได้รู้สึกว่าเค้าเป็นคนไทย กลายเป็นคนพูดไทยไม่ชัด กลางเป็นสังคมอีกสังคมหนึ่งในเมืองไทย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การพูดไทยชัดไม่ชัดแต่อยู่ที่จิตวิญญาณต่างหาก จิตวิญญาณของไทย ของประเทศล่องลอยหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เมื่อต้นไม้ไม่มีรากแล้วลำต้นจะอยู่ได้อย่างไร ใบไม้จะอยู่ได้อย่างไร ถ้ามีภูมิปัญญาชาวบ้านและจิตวิญญาณของความเป็นไทยเป็นสิ่งมีชีวิต ตอนนี้คงกำลังตัวเหลืองๆ แห้งๆ รอวันตาย โดยมีลูกหลานคนไทยคอยรุมกระทืบอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายพอรากไม่มี สิ่งที่เข้ามาแทนคือวัฒนธรรมของตะวันตก คือ เงิน และปรัชญาของการมีชีวิตอยู่ก็คือ เพื่อตัวเอง ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองอยู่รอดและเหนือกว่าผู้อื่น ตัวแปรที่สำคัญที่สุดที่เราทุกคนต้องมีก็คือเงิน มีเงิน แล้วถึงจะมีความสุขได้ หาเงินกันเร็วๆ รีบๆ รวย แล้วก็ตาย เมื่อรวมๆ กันแล้ว ทุกฝ่ายช่วยกัน ผลลัพธ์ก็คือเราไม่ภูมิใจในความเป็นไทย ก็จะให้ภูมิใจอะไรล่ะครับ ในเมื่อมันหายไปหมดแล้ว จะหาอะไรให้ภูมิใจก็ไม่เจอ ตลกกว่านั้น ผมว่าถึงหาเจอเราก็ไม่เห็นว่ามันจะน่าภูมิใจตรงไหน ผมคิดว่าตอนนี้ คนงานคนนั้นคงกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ มีลมพัดเย็นๆ แล้วทอดสายตาไปตามถนนที่เค้าเพิ่งทำเสร็จอีกแห่งหนึ่ง และรอบๆ ริมถนน ต้นซากุระคงกำลังรอที่จะผลิดอกอันสวยงามอีกในปีหน้า ในขณะที่ต้นชัยพฤกษ์เหี่ยวแห้งลงทุกวันๆ รอวันตาย ผมเป็นคนไทยและผมก็รักเมืองไทยและผมก็อยากให้คนอื่นๆ รักเมืองไทยเหมือนกัน ผมอยากให้ผู้รับเหมาในเมืองไทยไม่ทำงานกันลวกๆ ผมอยากให้เมืองไทยเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่สวยงาม มีรสนิยม ผมไปๆ มาๆ หลายประเทศ ผมพบว่าประเทศเราติดอันดับสกปรก ไม่มีระเบียบ ตึกรามบ้านช่องอุจาดสายตาเกือบที่สุดในโลก ผมพบว่าตัวการใหญ่ที่ทำให้บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ก็คือ เงิน เราอยากได้เงิน เงินจากการคอร์รัปชั่นของผู้รับเหมากับหน่วยงานของราชการ ส่วนผู้ว่าจ้างก็อยากให้ผู้รับเหมาสร้างตึกเร็วๆ เสร็จเร็วๆ จะได้ค้าขายสักที สวยไม่สวยช่างแม่ง สบายๆ ชิลล์ๆ อย่าไปคิดมาก ร้านเราต้องเด่นทาตึกสีเขียวแม่งเลย ลองไปถนนแถวซอยวัชรพลดูสิครับ เราจะเห็นป้ายขายของเต็มไปหมด ซ่อมไดนาโม ถ่ายเอกสาร รับกำจัดปลวก รับต่อ พรบ. และอื่นๆ อีกมากมาย ทุกร้านอยากได้เงิน เงินเยอะๆ ด้วย เพราะฉะนั้นป้ายเราต้องใหญ่ ต้องเด่น ร้านอื่นสีแดง เราต้องสีเขียวแม่งเลย ที่ตลกกว่านั้นก็คือพอทุกป้ายเด่น ทุกอย่างลายตาไปหมด ขับรถไปแถวนั้น ปวดตามากครับ เรื่องความสวยงามไม่ต้องพูดถึง เห็นแล้วขนลุก ข้อดีของประเทศเราก็คือ เราไม่คิดมาก ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติต่างๆ อันเลวร้าย จึงต้องเรียนรู้วิธีป้องกันและเอาตัวรอดให้ได้ เพราะฉะนั้น ในช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นมีชีวิตอยู่จึงเป็นเวลาที่มีค่าและควรมีความสุขที่สุด ผมว่าประเทศเราเห็นแก่เงินกันอย่างมีระบบ พูดง่ายๆ เป็นกันหมด รากฝอย รากหญ้า รากแก้ว เราด่าผู้นำ ด่ารัฐบาล ด่านัก ารเมือง ผมขอแนะนำให้เราด่าตัวเอง ด่ากันบ้างเถอะครับ บ้านเราชอบอะไรเร็วๆ รวยเร็วๆ ดังเร็วๆ เป็นประเทศที่มีของใหญ่ที่สุดในโลกมากมาย ตั้งแต่ ข้าวหลามยักษ์ กระบวยยักษ์ ไข่เจียวยักษ์ ข้าวผัดยักษ์ หม้อยักษ์ โอ่งยักษ์ ธูปยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ปัจจุบันไม่มีเพราะล้มลงมาทับคนตายลงข่าวหน้าหนึ่ง) แต่สิ่งที่เราไม่มีคือ การรักษาต้นไม้ เลี้ยงดูให้ใหญ่ที่สุดในโลก รักษาแหล่งน้ำให้อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ผมว่าเราทำให้ชีวิตเราซับซ้อนเกินไป ทำเงิน หาเงิน ต้องมีเงินถึงจะมีความสุข ที่สำคัญคนอื่นจะเป็นยังไงช่างมัน ทำไมความสุขของเราต้องตามมาด้วยความทุกข์เสมอครับ


ต่อ- ธนญชัย ศรศรีวิชัย: นิตยสาร สารกระตุ้น 01/01/2549

ปล...ผมว่าคุณต่อเขาพูดไว้น่าคิดดีนะครับ ใครคิดเห็นยังไง

He is Thanonchai Sornsrivichai


Phenomena - 'Tor' Sornsrivichai

His base in Bangkok, Phenomena, was also deemed by Gunn to be the most awarded production house in the world. Considering his frenetic schedule, Tor's laid-back, laconic manner belies the intensity of being one of the most sought after directors in Asia.
Fresh from winning the 2009 Cannes Lions International Advertising Festival Palme d'Or, we caught up with Thailand's Thanonchai 'Tor' Sornsrivichai in between takes to ask him where it goes from here.
Agency.Asia: Not that you needed any reminding, but you'd have to be pleased about your team winning at Cannes and that Phenomena is consistently seen as the best shop globally. There are plenty of sound business reasons to enter awards, but is it possible when you've won so many to become blasé and tire of them at the same time?
Sornsrivichai: Yes!
Agency.Asia: Do you involve yourself heavily in the business of running Phenomena, say, more than going to pre-production meetings or pitching creative?
Sornsrivichai: Yes, I do. I am interesting in improving quality in the people and create inspiration for the othersmy people to work as fast as they can, at their best and highly effective. I. I want to encourage also want to encourage my people to be a better person by think less of themselves and think more for others.
Agency.Asia: You'll no doubt have seen in the news that Procter & Gamble revealed that they are in the process of pre-selecting production houses that its agencies will be expected to use globally. Word on the street is that many companies such as Reckitt Benkiser will follow suit. What's your understanding of the situation and its ramifications, assuming that you wish to comment on such a sensitive topic?
Sornsrivichai: It's difficult to find good stuff at low-priced in this world. Let say if you try to buy a Louis Vuitton bag at 10$ you won't get a Louis Vuitton. When you pay 10$ for a bag, you will get a 10$ worth of a bag and a 10$ quality. And one more thing that I 'd like to say is one group of people especially those who are always wearing tie and suit and spend most of their times meeting in a tiny meeting room can't think and set things for the rest of the world. Different countries in this world have different culture, different way of thinking, and different history, they should respect that.
Agency.Asia: Obviously there's a crew toiling behind the scenes to assist your stable of directors. Are there any hard and fast rules that you feel has brought the company success? Being from Thailand, so we'd hazard a guess that having fun is rule #1.
Sornsrivichai: Yes!! Having fun is rule no. 1!!! But what makes the company success is the team. We have a strong and very committed teamwork who are happy to their job and to work with each other. The most important thing to me is to make them dare to think, dear to create new idea, and always be happy with their work.
Agency.Asia: You're self-taught. You started your career after graduating as an architect and then spent time as a graphic designer. How did you make the leap to film - and appreciating how hard that was, are you active in promoting emerging talent? Notwithstanding rule #1, what would be your best advice for budding directors?
Sornsrivichai: You have to read everything that valuable, see everything that valuable, learn everything that valuable and do everything that valuable and best for all. for yourself, for clients, for the society, and for the country.
Agency.Asia: Are there any plans afoot to do feature films, or go back to architecture? We have to ask the question - why did you go long way around by studying that first?
Sornsrivichai: Actually I studies Industrial Design but it's a major in architect faculty. it was not my intention to study it but I didn't know what I should study. For the feature film yes! I want to do is making feature film, being an architect, being an artist, being a painter, making sculpture, being an investor, being a chef, planting trees lots of trees (forest), doing agricultural, all these are things I want to do, and I will do.
Agency.Asia: The advancements in postproduction over the course of any year are amazing. Are you and your DOP purists that insist on using film, or do you feel that digital has reached a point that you're equally comfortable with HD?
Sornsrivichai: No problem. I am very open to new thing. Any additional.
ความสำเร็จที่มี ชื่อเสียงระดับโลกที่ได้มา ไม่ใช่ของง่าย หากแต่เป็นความพยายามอย่างยิ่งยวด ต่อ-ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับมือ 1 ของโลก เป็นผู้กำกับที่ได้รางวัลมากที่สุดเป็นอันดับ 1 จากการจัดอันดับของ The Gunn Report 2005 เป็นรางวัลการันตีล่าสุดที่พิสูจน์ถึงการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณามือทอง ผู้เป็นที่ต้องการของเอเยนซี่และเจ้าของสินค้าทั้งหลาย ด้วยหมายมั่นว่าเขาจะเสกไอเดียบนแผ่นกระดาษให้โลดแล่นบนจอได้อย่างน่าชม


ย้อนกลับเมื่อครั้งอยู่บริษัท สามหน่อ ธนญชัย เป็นกราฟิก ดีไซเนอร์ ก่อนจะถูกดึงมาเป็นจิ๊กซอว์คนสำคัญในฟีโนมีนาในเวลาต่อมา ตอนหนึ่งจากการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารอะเดย์ ว่า ธนญชัย บอกว่า เขาต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในแง่ของโปรดักชั่น เขาไม่เข้าใจกระทั่งคำว่า ฟิล์ม 35 มม. แต่ด้วยความเป็นคนใฝ่รู้และมุ่งมั่น ทำให้เขาใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน ลบคำประมาสได้โดยสิ้นเชิงเมื่อเขาสร้างผลงานจนกลายเป็นผู้กำกับมือดีไม่ใช่แค่ที่หนึ่งของเมืองไทย แต่เป็นถึงที่หนึ่งของโลก ทุกครั้งที่ได้เห็นผลงานชั้นเซียนทางหน้าจอโทรทัศน์ ร้อยละ 90 เชื่อได้ว่านั่นคือฝีมือของเขา ไม่ว่าจะเป็น เยสโล่ เพจเจจ ฟอร์ดคิงคอง สมูทอี เบบี้ เฟซ โฟม เซียงเพียงอิ๊ว กรุงเทพประกันภัยฯลฯ และจากนั้นไม่นานรางวัลความสำเร็จจากสถาบันทั้งในและนอกประเทศจะไหลบ่ามากำนัลแก่เขา เขาบอกว่า โชคดีที่ทีมงานเก่งมาก แต่ก็ทำงานเหนื่อยมากเช่นกัน เนื่องจากเฉลี่ยต่อเรื่องใช้เวลาทำงานประมาณ 15-30 วัน และมีบางเดือนที่เขาต้องถ่ายหนังถึง 14 เรื่อง ถ่ายกันจนท้องเสียเลยทีเดียว


การจะได้ร่วมงานกับฟีโนมีนา ซึ่งวาง Positioning เป็นโปรดักชั่น เฮาส์ ระดับพรีเมียม ต้องใจป้ำพอที่จะควักกระเป๋าขั้นต่ำ 3.5 ล้านบาท และที่นี่มีผู้กำกับถึง 10 คน ธนญชัย ได้ชื่อว่า เป็น The Most Wanted Director “ทุกวันนี้นอกจากเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาแล้ว ยังต้องดูแลทีมงาน และมีภาพยนตร์ที่ฉายในโรงหนังด้วย ในนามของฟีโนมีนา โมชั่น พิคเจอร์ เฉพาะภาพยนตร์โฆษณาก็ไม่ค่อยมีเวลาแล้ว” งานที่แทบหาเวลาพักผ่อนไม่ได้ บ่งบอกถึงความฮอต โดยเอเยนซี่ขาประจำที่ร่วมงานกันบ่อยครั้ง อาทิ Ogilvy & Mather, J.Walter Thompson และ Leo Burnett เป็นต้น


เขาเคยให้สัมภาษณ์ POSITIONING เกี่ยวกับแนวคิดในการทำงานของเขาที่ไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อเงิน เพื่อกล่องอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความสุขจากการทำงาน คือ เห็นคนดูแล้วเขามีความสุข ให้เขาสนุก หนังโฆษณา อย่างแรกคือต้องขายของ แต่ต้องเริ่มต้นจังหวะแรกด้วยการทำให้เขาสนุก ไม่ใช่ทำให้คนดูตกใจ เหมือนเรานั่งอยู่บ้านแล้วมีเซลล์เดินเข้ามาเคาะประตู แล้วเขามาขายของอย่างเดียว เราไม่ต้องการ ไม่ชอบ เราชอบเซลล์ที่ช่างเจรจา ไม่ได้ตั้งท่าจะเอาเงินอย่างเดียว “หน้าที่ของผมคืออยากขายของให้ลูกค้าด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นกฎต่อไปนี้ ก็คือว่า ต้องไม่ให้สังคมมีปัญหา หนังจะต้องทำให้สังคมดี ขายของได้แล้วต้องขายศีลธรรม อะไรบางอย่างให้กับสังคมบ้าง ขอขายพ่วงนิดนึง ที่ชอบมีดาบวิชัย จากแรงเยอร์ และไทยประกันชีวิตชุดที่เกี่ยวกับพ่อลูก ผมขอบคุณสำหรับคนที่ชม ขอบคุณสำหรับคนที่ด่าว่ามันรุนแรงเกินไป แต่สิ่งที่ดีใจคือ อย่างน้อยเขาดูแล้วเขาคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ของเขา วัตถุประสงค์คือขายประกันให้ได้ อีกวัตถุประสงค์หนึ่งที่เท่ากันก็คือ ต้องกลับไปกอดพ่อกอดแม่กลับไปหาคนที่เรารัก...แต่ผมบอกก่อนนะที่พูดอย่างนี้ผมไม่ใช่คนดีอะไรนะ” “ผมทำหนังเรื่องนี้เพราะอยากให้คนปลูกต้นไม้ คิดสิว่าปลูกต้นไม้กันไหม รางวัลผมก็ไม่ได้แคร์มากอะไรนักหรอก ขายของผมก็อยากขาย แต่ผมเชื่อว่ามันมีวิธีขายที่จะทำให้ประเทศมันดีขึ้นด้วย คิดแบบนี้ดีกว่า และสิ่งหนึ่งที่ผมพยายามสอดแทรกเข้าไปก็คือแนวคิดของพระพุทธศาสนา เราเชื่อว่าต้นไม้คือสิ่งที่มีชีวิตให้คุณค่า วัตถุล่มสลายแต่ธรรมชาติยั่งยืน แต่ใครจะรับได้แค่ไหนก็สุดแท้แต่ละคน” ฝีไม้ลายมือของเขาเป็นแรงบันดาลใจ ทรงอิทธิพลทางความคิดใครหลายคน และก่อให้เกิดผลิตผลชั้นดีแก่วงการ อาทิ ทรงยศ สุขมากอนันต์ 1 ในผู้กำกับแฟนฉันและโชว์เดี่ยวครั้งแรกกับเด็กหอ ทรงยศนับถือธนญชัยเป็นครูคนสำคัญเลยทีเดียว


Profile


Name : ธนญชัย ศรศรีวิชัย


Age : 37 ปี


Education :

- ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่

- ปริญญาตรีสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเจ้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง


Career Highlights :

- 2537-ปัจจุบัน ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา บริษัท ฟีโนมีนา จำกัด

- 2534-2537 กราฟิกดีไซเนอร์ บริษัท สามหน่อ จำกัด


Major Award Winnings

2549 (โดยสังเขป) :

- Cannes Lion Gold สมูทอี เบบี้ เฟซ โฟม

- Gold กรุงเทพประกันภัย - One Show Silver กรุงเทพประกันภัย

- Clio Gold แคมเปญกรุงเทพประกันภัย

- Gold กรุงเทพประกันภัย ชุด พายุ - Silver สมูทอี เบบี้ เฟซ โฟม

- Bronze ไทยประกันชีวิต


2548 Awarded Director 2005 จาก The Gunn Report


Tuesday, May 25, 2010

Sunday, May 23, 2010

feel like idiots

Good design is all about making other designers feel like idiots because that idea wasn’t theirs.
— Frank Chimero

Design is like sex

"Art is like masturbation. It is selfish and introverted and done for you and you alone. Design is like sex. There is someone else involved, their needs are just as important as your own, and if everything goes right, both parties are happy in the end."

— Colin Wright

Friday, May 21, 2010

Breezy Busy Friday!

Yah! I've been up late for connected 3 days...coz I think I might have an insomnia. This is suck! Try to get myself tired and feel sleepy but it's very hard. Some causes are from the weather that recently become DAMMMMM HOT...now it's cool enough or I'v thought about the committee works till I can't sleep coz I always get ideas for activities,so I just sit & typed my ideas before they are gone!

Adam called at 11.30am Shit! late again ... I was very rush to go school by taking taxi. I'm so lucky that the taxi came as wished.

Reached school at 12.15 ok... problems started from A permission of Pasir Ris green area was rejected! Misunderstood about Cohesion Day Re-think all Portfolio was pending didn't send e-mail for applying feelance job didnt apply for competition DM havnt settled...BLAST!!!!!!!!!!!!!! My head exploded!!!

Relaxing by going to see new shops at the street near Maxwell food center nice! We took a lot of shots!

Walked there for a while and came back to continue my resume. Shane went back...noone I can consult for resume. Helped ZL for her FMP studio photography. GN & Fion were models. It's fun! GN looks very pure,innicent and cute. Fion looks hot!,sexy! in a concept of wonder woman!.I do respect for ur spirit! ;)

We were hanging out quite a big group me,Gn,ZL,sayi,Fion,Shek,YY,Owen,LH,Lucian. End with having dinner at McD,ppl's park. Yummmmmm *o*

Thursday, May 20, 2010

4AM beated 2PM

My Kai Yoyy becomes one of gay 4am. 555

There is a joke why they are called 4AM coz the producer thought if call them 2PM was too late !!! (It means you start working 2pm.) So why don't calling them 4AM, start working early,do more work and earn more money 555 ;P

Tuesday, May 11, 2010

I love my nation,Thailand


As known,the situation is getting worst. It seems that no way out to solve this problem now. How many times that our country has the political conflict. If turning back time and seeing what happened from the past, all the same story but the role player might change to the new one.


The core reason we all know that is from the conflict of interest. Person or group opposing the issue to the other group ,say something bad to the other group by using mass media as a tool to fool the consumers. When the opinions become different. The consumers or the people break themselve to support the group that they feel right.


It will be ok until they getting protest by make a trouble to everyday life of the people in order to raise their right and their voice that they widsh to make the other group change from what they want. It will be easy if it just a quarrel and fisnish. Still the situation has been extended long for years. Getting bigger group to oppose together. Not only by wording but forcing. And it's really worst when people were killed. Fuck!!!


Until now,they havent reached the peak ( I wish it won't be any peak ). As one voice of me, as Thai in other country, I heard so many foreigners ask me about the situation because I'm from Thailand. Simple question "Are you Red or Yellow?" just for fun I answered them that I'm Orane. However, deep inside I don't take any part. I feel bad and irritating everytime I see facebook that people scold and pervert the other group. Why? I guess they are overshadowed by angriness. Wisdom and consciuosness are the matter things that Thai need. To look into the problem and how we are going to solve. Hard,isn't it?


Nevertheless,as Thai,you must do something to oppose anyone has tendency to destroy our country. You don't take part of any Red or Yellow and you said that you love country by doing nothing it means you are killing your country by supporting to continue the protest. If you don't stop by raise your voice to against the protest from any group.


You must do something! and be prouded that you love your country


I love Thailand.

Saturday, May 8, 2010

"อิ่ม หมี พี เมา"

I went out with PÁnn for relaxing from tired both working and studying life.



After helping assist ZL for her FMP photoshoot with Pets,the rain just like BOOM!!! the weather has been hot for whole month and it's super hot these 3-4 days till I couldn''t sleep at all DAMM!

Night time I met p'aNN at Haji Lane or Arab street coz we planed to hang out at Blue Jazz. By the way I was very hungry so I brought her to the restaurant that I went with my friend from school last time. Having rice with saucy chicken....Nice! and iced mint tea...great dinner!



Havn't decided to smoke Shi-sha. P'Ann mentioned about Rorchor Beancurd she went last time. Hmm ok...letz move there!!! Walking from Haji Lane to Rorchor...as usual lots of big fan of soy bean and some fried snack. It's almost MIDNIGHT!!! we still want to eat just because we want not we need!! LOL!!



Hanging around Lasalle...having beancurd,soy milk and cinemon bun....YUM YUM!!!



Hmm just 1am...nowhere to go...so we went back to Haji Lane...walked here walked there and met cute guys looked like Japanese...no comment just cute heeeee ;D Heard some greeting word "Konni chi wa" Just curiuos, were they taking to us!!!?? haha ;P



End up with smoking Shi sha at the place next to Blue Jazz...Nvr known that Shi sha made me drunk!...or bcoz this time there were 2 persons. So I could smoked extra large amount of it! MAOOOO but nice. End of good night home. Fewww!!

Qubist (pending)


I've just done for making mocked logo for mocked Student Committee's name called Qubist. I have to ask David for his suggestion about the name that we havnt decided the final one. I have extended time too long (yeah I'm lazy ... ) Ok ! This Monday morning I'll ask him and letz our team know his suggestion. Wednesday will be a final vote!. Anyway I took the right to create the facebook page for our commitee to share our work and publish later. We will work on it later. Promise to try my best eventhough I'm not good alert enough ^^


* Cheers!!!


Friday, May 7, 2010

How to be a dreaming graphic designer without losing ur soul?

Yesterday, I went out with Zl,Ginny,Dan,Jay & Moo. Ahead to CQ at night time for ZL photoshoot. FMP is coming SOON!! Tonkao...hope u prepare ur mind to fight with this coming FMP in the next 4 months. Fewww =,=!

Before going to worry about ur future, plz consider for the present that what you have done so far. Again one word... I'm so fucked up. Sorry Dad Sorry Mom Sorry Everyone who expect me to be a good girl. I can't do anything right now. Just wana hide myself to somewhere.

I don't know why. It's just a depressed RED mood.

Wish to be his pic

*Good enough?

F*ck


I feel my life so fucked up!... No mood No feeling No inspiration F*ck F*ck F*ck

New porfile pic (=v=) ชอบจริงจัง ;)



Just changed my new profile pic edited yesterday.


Original (Taken by LG350 aka Ice cream)


//Edited 1

//Edited 2