Saturday, March 31, 2012

Jabbawockeez - America's Best Dance Crew Champions

Wade Robson Group Routine 2009 SYTYCD S6

Party Rock Anthem - choreography tutorial I Street Dance Academy episode 4

'womanizer' britney spears. Choreography by Jaz Meakin.

LMFAO - Party Rock Anthem (Ali Chopan / Newstyle Shuffle)

PARTY ROCK ANTHEM - LMFAO feat Laurent Benneet & Goon Rock

'bad romance' lady gaga, choreography by Jasmine Meakin.

'OMG' Usher choreography by Jasmine Meakin

'moves like jagger' choreography by Jasmine Meakin (Mega Jam)

'On the Floor' Jennifer Lopez choreography by Jasmine Meakin

How To Dance Like Beyonce!!!

Beyoncé - Single Ladies (Put A Ring On It)

30 minute hip hop cardio dance workout #2 with Adrienne White

Fun fitness workout Rio de Janeiro, Brazil - Samba Funk Axe Merengue Reg...

Bollywood Dance - Dance routine - Wedding TV

Advanced tae bo best exercise to lose weight

TaeBo Level 1

Wednesday, March 28, 2012

Monday, March 26, 2012

[Thai Sub] Lie To Me_Ep.01 1/5

Hot Legs Sexy Butt Workout

Wet Hot Abs!

how to lose belly fat in 1 week

Basic Yoga : Full Body Benefits of Yoga

หนังสือโม๊เดิ้น

shop.gestalten.com/index.php/catalog/product/view/id/4015

Wednesday, March 21, 2012

Monday, March 19, 2012

Pixar Posters Series

http://www.fubiz.net

Saturday, March 17, 2012

"เจ็บนิดเดียวเดี๋ยวก็เช้า"

"เจ็บนิดเดียวเดี๋ยวก็เช้า" - And This, Too, Shall pass
เขียนโดย พี่ชายผมที่พรัดพรากจากกันตั้งแต่เกิด (มีใบหน้าและรูปร่างคล้ายกันมาก ฮา...)
นั่นคือ พี่บิ๊ก บุญสินสุข (ภูมิชาย บุญสินสุข)

ขอบอกตรงๆ ครับ ผมเพิ่งอ่านมันจบวันนี้! (267 หน้า)

ชอบมาก ทุกบบอกถึงคำศัพท์ที่ไม่ค่อยรู้ หรือรู้แต่ใช้ไม่เป็นก็มี
อ่านเพลิน แล้วศัพท์เข้าหัวปรู๊ดๆ เดินสามก้าวยังไม่หาย

แต่ที่อยากจะบอกมากกว่าคือ
สไตล์การเขียนของพี่บิ๊ก ในแต่ละบท
มักจะซ่อนประโยคเด็ดๆ (quote)
ที่มันทิ่งแทงโดนใจมากๆ
เหตุหนึ่งที่ทำให้อ่านช้า
เพราะรู้สึกวนเวียนกับประโยคหลายจุด

ดังนั้น ขออนุญาติพี่บิ๊กนะครับ ที่จะคัดลอกประโยคที่โดนใจมาไว้กันลืม
และไว้ให้ผู้อื่นคนอื่นๆ ได้ลองซึมซับดู

...

...

เจ็บนิดเดียว เดี๋ยวก็เช้า / And This, Too, Shall Pass.
เกิดขึ้น และผ่านไป
นี่คือความจริงของอะไรก็ตามบนโลกใบนี้

Some / เด็ด
สรุป เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อันความรู้นั้นมีแฝงอยู่ทุกที่ล่ะครับ
ไม่ว่าที่นั้นๆ
จะเป็นที่ที่โป๊หรือไม่โป๊ก็ตาม

พิเศษไหม? / Extra
ผมว่าทีมเวิร์กที่เต็มไปด้วยคน 'ไม่ยอมน้อย'
รับรองว่าต้องกลายเป็น 'ทีมไม่เวิร์ก' ในเวลาไม่นานแน่

แล้วเธอจะรุ้สึก / Water Runs Dry
และทำไมในบางเรื่องเรา เราก็ยังผิดซ้ำแล้ว พลาดซ้ำเล่า
เหมือนไม่รู้จักเรียนรู้เสียที

แล้วรักหรือเปล่า / Bases
เจอสิ่งที่ไม่ชอบ แล้วยังอยู่ด้วยกันต่อไปได้
ไว้ถึงขั้นนั้นก่อนล่ะมั้ง ค่อยมาคุยกันว่า
"แล้วรักหรือเปล่า"

อภัย / Forgiveness
ถ้าเป็นเพื่อนกันจริง ถ้ารักกันจริง เรื่อง 'ยกโทษ' ถือเป็นเรื่อง 'จำเป็น' ครับ
เพราะไม่เช่นนั้น เราคงต้องทำในสิ่งที่จะทำให้เราเศร้าระทมขมขื่นไปอีกนาน
นั่นคือการต้องโกรธคนที่เรารัก ไปตลอดชีวิต

บังเอิญ / Run into
แม้ว่าโลกนี้จะเต็มไปด้วยความบังเอิญ แต่ถ้าใครเคยฟังเพลง ไม่บังเอิญ ของ กุลวัฒน์ พรหมสถิต
ก็คงเห็นด้วยว่า การคาดหวังให้คนที่เขามีใจให้กับคนอื่นแล้ว 'บังเอิญ' เปลี่ยนใจหันกลับมารักเรานั้น
...มันย่อมเป็นไปไม่ได้

แอบชอบ / Guilty pleasures
แต่ไม่ว่าจะยังไง ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า คนที่สามารถบอกออกมาดังๆ ว่าตัวเองชอบอะไร หรือชอบใคร
โดยไม่กลัวหรือแยแสว่า คนอื่นนั้นจะคิดยังไงนั้น
นอกจากจะโชคดีสุดๆ แล้ว ยังเท่ออกจะตายไปครับ

จำที่ทำ / Remember-ing
ความผิดพลาดจะเกิดขึ้นกับเราเสมอ
สิ่งสำคัญอยู่ที่ เราจดจำมัน
และได้เรียนรู้จากมันหรือไม่
ก็แค่นั้นเอง

รักก็คือรัก / Love, period
เพราะยังไง รักก็คือรักอยู่ดี
ไม่ว่าความรักนั้น จะเกิดจากใคร และเกิดกับใคร

ความประหลาดใจ / "Surprise me."
เขาว่า "Life is full of surprises" ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยเรื่องน่าประหลาดใจที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งมันก็คงมีปะปนกันมาทั้งเซอร์ไพรส์ดีและเซอร์ไพรส์เลวล่ะนะครับ และแม้ว่าผมจะเป็นคนไม่ชอบความหวือหวาเท่าไรนัก แต่ถ้าให้เลือก ผมก็ขอเลือกชีวิตที่คาดเดาไม่ค่อยจะได้ มากกว่าชีวิตที่คาดเดาได้ไปซะหมด
มันสนุกกว่ากันเยอะ

เพราะ / Because
เพราะบางครั้ง บางเรื่องราวเราก็ทำลงไป
โดยไม่มีเหตุผลกำกับไว้จริงๆ

ซวย / Jinx
ชีวิตช่วงตกงานนั้นเป็นห้วงเวลาที่บัดซบมาก
แต่ที่บัดซบกว่าคือ ชีวิตที่ต้องฝืนทำงานที่ไม่อยากทำ
และที่บัดซบที่สุดคือ อีตอนกำลังรอข่าวงานที่เราอยากได้ ในขณะที่ต้องทำงานที่ไม่อยากทำไปก่อนพลางๆ!

กล้าดี / The nerve
ความกล้านั้น ต้องบวกจิตใจที่ดีลงไปด้วย
มันถึงจะเป็น 'กล้าที่ดี' จริงๆ

ไม่ได้ไม่ได้ / Expectation
ลองมานึกดูอีกที ถ้าคนคนหนึ่งมีชีวิตอยู่โดยที่ไม่ได้เป็นความคาดหวังของใครเลย หรือไม่ถูกคาดหวังของใครเลย หรือไม่ถูกคาดหวังโดยใครเลย
มันก็คงน่าเศร้าใจ
และรู้สึกไร้ความหมายได้เหมือนกัน

ขี้ลืม / Forget
"เขาอาจจะจำไม่ได้ว่าคุณเคยพูดอะไรเอาไว้
แต่เขาลืมไม่ได้แน่ว่า คุณเคยทำให้เขารู้สึกอย่างไร"
-Carl W. Buechner

เมื่อไม่มี / For granted
ถึงได้รู้ว่า ความสุขในชีวิตนั้น ที่แท้ก็คือสิ่งเล็กๆ แค่นี้เอง
มันคือการมีน้ำอุ่นอาบ
และมีผ้าเช็ดตัวนุ่มๆ สะอาดๆ ไว้เช็ดตัว
เท่านี้เองจริงๆ

จะเอาศอก / Push
เมื่อถูกถามว่าจะเพิ่ม 10 บาท แล้วรับโคล่าใหญ่พิเศษไหมครับพี่
"Would you like to super-size that?" ลองตอบว่า "No. thank you." มั่งก็ได้นะครับ
สนุกดี ผมเคยแล้ว พนักงานทำหน้าตกใจม้าก!

ชม / Compliment
คำชมเป็นของฟรีที่มีค่ามากที่สุดอย่างหนึ่งในโลก
ถ้าเราแจกจ่ายมันออกไปอย่างจริงใจ

กลัวแก่ / Getting old
และขอให้รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าเมื่อยามชรา เป็นร้อยเหี่ยวย่นที่เกิดจากการยิ้มเยอะ
หัวเราะเยอะกับชีวิตที่ผ่านมาเท่านั้น ไม่ใช่รอยย่นจากความกังวลหรือความเครียดเศร้าหมองแต่อย่างใดเลย

ช่างเหอะ / Never mind
และนี่คือสำนวนภาษาอังกฤษที่คนไทยใช้กันผิดติดอันดับโลก
"Never mind."

ก็อยากอยู่ / Tempting, but no.
วันนี้ คุณได้ต่อสู้กับความอยากของตัวเองบ้างแล้วหรือยัง!

ทำได้ทำดี / Pull it off
ผมเลยได้ข้อสรุปของตัวเองว่า
เสื้อผ้า + ทัศนคติ มันถึงจะ = แฟชั่น

ทวนลม / Tune out
ทุกคนมีหู ทุกคนฟังเป็น แต่ลองใช้หูร่วมกับใจและสมองกรองอีกชั้นด้วยทัศนคติและอีคิว
ผนวกการฝึกฝนอีกเพียงเล็กน้อย คุณจะทึ่งที่ได้พบว่า ต่อให้ 'ต้องฟัง'
เราก็ยังสามารถ 'เลือกที่จะไม่ได้ยิน' อะไรบางอย่างได้เหมือนกัน

ปมนมยาน / Saggy
ผมว่าทุกคนแหละจะต้องมี 'ความนมยาน' ประมาณนี้ซ่อนอยู่ในชีวิต อะไรบางอย่างที่คุณเสียความมั่นใจกับมันมากๆ และพยายามอย่างยิ่งที่จะซ่อนมันเอาไว้ให้มิดชิดที่สุด แต่กระนั้น มันก็ยังสามารถเล็ดลอดออกมาหลอกหลอนคุณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาอ่อนแอ ที่ความมั่นใจใกล้หมดถัง
ว่าแต่เราลองเอา 'นมยานๆ' ที่ว่าของเราออกมาพิจารณาดูให้ดีอีกทีกันไหมครับ?
อาจเป็นไปได้ว่า ที่จริงแล้ว มีเราอยู่คนเดียวนั่นแหละ
ที่เห็นมันยานน่าเกลียดจนทนไม่ได้?

อีกนิดเดียวก็ชนะแล้ว / Lurker
ผมเคยถามเจ้านายเก่าคนหนึ่งของผมเล่นๆ ว่า
"พี่คิดว่าอะไรที่ทำให้พี่ประสบความสำเร็จ"
เธอตอบว่า "ความอดทน...พี่ว่ามันไม่ใช่ 'ใครเก่งกว่าใคร' หรอก แต่มันอยู่ที่ 'ใครอึดกว่าใคร' ต่างหาก
บางทีนะ เพียงแต่ขอให้เราอดทนได้มากกว่าคนอื่นแค่นิดเดียว เราก็ชนะแล้ว"

มุ่งหมั้น / Commit
เมื่อผมรักคนคนหนึ่ง รักมากจนตั้งใจว่ายังไงๆ ก็จะไม่ทิ้งกัน และจะอยู่ด้วยกันไปตลอด ผมก็จะรักคนนี้คนเดียว จะไม่ไปยุ่งเกี่ยววอแวกับคนอื่นอีก เมื่อก่อนใครถามก็บอกว่า ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ดูไปเรื่อย คบไปเรื่อย แต่ถ้า Comit แล้ว ก็จะพูดเต็มปากเต็มคำเสียงดังๆ ไม่มีอ้อมแอ้มว่า "ผมมีแฟนแล้วครับ"
ต่อให้คนถามจะน่ารักและตรงสเปกเราแค่ไหนก็ตาม!

ขอตอบแทน / Repay
มัวมาเสียเวลานั่งโกรธกันอยู่ทำไม สู้หาวิธีล้างแค้นมันดีกว่า! อืม อันนี้ออกจะเลวอยู่นะครับ
ขัดกับหลักพุทธศาสนาอย่างแรง ถึงผมจะชอบคำกล่าวอันนี้มาๆ แต่ก็ไม่แนะนำล่ะ ให้ท่องว่า
"เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร" ดีกว่าไหม (ไม่)

เราทุกคนย่อมเคยมีบานี่จัง / My security blanket
ผมเชื่อว่าต่อให้เป็นคนที่มั่นใจตัวเองมากที่สุดในโลก ก็ยังต้องมีอารมณ์อ่อนแอ
และมีช่วงที่ต้องการอะไรยึดเหนี่ยว
อะไรที่เขากอดเอาไว้แล้วช่วยเขาได้ ผมว่านั่นก็เป็นอีกความหมายหนึ่งของ Security blanket เช่นกัน

คืนที่ไฟดับ / We are family
นอกจากความรักแล้ว ความใกล้ชิดก็เป็นสิ่งสำคัญของครอบครัว บางครั้งที่เราทะเลาะกัน หรือรู้สึกเกลียดกัน มันอาจเป็นเพียงเพราะเราลืมไปว่า เราเคยรักกันและสนุกสนานกันมากแค่ไหน
ในวันที่เ่รายังไม่คิดจะเดินหนีจากกันไป

แตกต่างอยู่ข้่างกัน / Juxtapose
มันคือโลกเราเลยล่ะ มันคือทุกวันที่เราเป็นอยู่นั่นเอง
มันต้องรู้จักอดทนต่อความต่างของคนอื่น
และเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันให้ได้
ไม่ได้รักกัน ก็ไม่เห็นต้องเกลียดกัน
แตกต่างกัน ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ควรอยู่ร่วมกัน
ผมรู้สึกว่าเราสองคนก็เป็นแบบนั้นนะ
แตกต่าง แต่มาอยู่ข้างๆ กัน
ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะผมรู้ว่า
ผมคงทนคนที่เหมือนตัวเองไม่ได้แน่ๆ เลย
ผมดีใจที่ได้มา Juxtapose กับคุณ :-D

นักขาย / Art of Selling
เธอได้ทั้งเงินผมและใจผม สองอย่างเลย
ส่วนผม ก็ได้ทั้งของที่ต้องการ และบริการที่ประทับใจ
สองอย่างเหมือนกัน

สำเนียง / Comforting
สำเนียงอีสานกับเสียงใสๆ ของเธอเข้ากันได้ดีอย่างน่าชื่นใจ
มากมายกว่าสำเนียงเมืองๆ เป็นไหนๆ

ภาพใหญ่ / Big Picture
และสำหรับคนที่เป็นผู้นำแล้ว 'Big Picture' เป็นสิ่งที่ไม่เพียงต้องมองให้ขาด
แต่ต้องอธิบายให้ทีมของคุณเห็นภาพได้ชัดที่สุดอีกด้วย

Monday, March 5, 2012

Guerrilla marketing

Guerrilla marketing is an advertising strategy in which low-cost unconventional means (graffiti, sticker bombing, flash mobs) are utilized, often in a localized fashion or large network of individual cells, to convey or promote a product or an idea. The term guerrilla marketing is easily traced to guerrilla warfare which utilizes atypical tactics to achieve a goal in a competitive and unforgiving environment.

The concept of guerrilla marketing was invented as an unconventional system of promotions that relies on time, energy and imagination rather than a big marketing budget. Typically, guerrilla marketing campaigns are unexpected and unconventional, potentially interactive, and consumers are targeted in unexpected places.

The objective of guerrilla marketing is to create a unique, engaging and thought-provoking concept to generate buzz, and consequently turn viral. The term was coined and defined by Jay Conrad Levinson in his book Guerrilla Marketing. The term has since entered the popular vocabulary and marketing textbooks.

Guerrilla marketing involves unusual approaches such as intercept encounters in public places, street giveaways of products, PR stunts, or any unconventional marketing intended to get maximum results from minimal resources. More innovative approaches to Guerrilla marketing now utilize mobile digital technologies to engage the consumer and create a memorable brand experience.

Guerrilla marketing focuses on low cost creative strategies of marketing. Basic requirements are time, energy, and imagination and not money. Sales do not compose of the primary static to measure business but is replaced by profit. Emphasis is on retaining existing customers then acquiring new ones.


Introduction

Levinson's books include hundreds of "guerrilla marketing weapons," but also encourages guerrilla marketers to be creative in devising unconventional methods of promotion. Guerrilla marketers use all of their contacts, both professional and personal, and examine their company and its products, looking for sources of publicity. Many forms of publicity can be very inexpensive, or even free.

Levinson says that when implementing guerrilla marketing tactics, small size is actually an advantage. Small organizations and entrepreneurs are able to obtain publicity more easily than large companies, as they are closer to their customers and considerably more agile.

Yet ultimately, according to Levinson, the guerrilla marketer must "deliver the goods". In The Guerrilla Marketing Handbook, he states: "In order to sell a product or a service, a company must establish a relationship with the customer. It must build trust and support. It must understand the customer's needs, and it must provide a product that delivers the promised benefits."

Levinson identifies the following principles as the foundation of guerrilla marketing:

  • Guerrilla Marketing is specifically geared for the small business and entrepreneur.
  • It should be based on human psychology rather than experience, judgement, and guesswork.
  • Instead of money, the primary investments of marketing should be time, energy, and imagination.
  • The primary statistic to measure your business is the amount of profits, not sales.
  • The marketer should also concentrate on how many new relationships are made each month.
  • Create a standard of excellence with an acute focus instead of trying to diversify by offering too many diverse products and services.
  • Instead of concentrating on getting new customers, aim for more referrals, more transactions with existing customers, and larger transactions.
  • Forget about the competition and concentrate more on cooperating with other businesses.
  • Guerrilla marketers should use a combination of marketing methods for a campaign.
  • Use current technology as a tool to build your business.
  • Messages are aimed at individuals or small groups, the smaller the better.
  • Focuses on gaining the consent of the individual to send them more information rather than trying to make the sale.
  • Commit to your campaign. Use Effective frequency instead of creating a new message theme for each campaign.

[edit]Associated marketing trends

The term Guerrilla Marketing is now often used more loosely as a descriptor for non-traditional media, such as:

  • Reverse Graffiti — clean pavement adverts
  • Viral marketing — through social networks
  • Presence marketing — marketing for being there
  • Grassroots marketing — tapping into the collective efforts of brand enthusiasts
  • Wild Posting Campaigns
  • Alternative marketing
  • Buzz marketing — word of mouth marketing
  • Undercover marketing — subtle product placement
  • Astroturfing — disguising company messaging as an authentic grassroots movement
  • Experiential marketing — interaction with product
  • Tissue-pack marketing — hand-to-hand marketing
  • Live-in marketing — real life product placement - see related article or Hostival Connect
  • Wait marketing — when and where consumers are waiting (such as medical offices and gas pumps) and receptive to communications

Guerrilla marketing was initially used by small and medium size (SMEs) businesses, but it is now increasingly adopted by large businesses.

[edit]Principles of Guerrilla Marketing

1. Find a segment small enough to defend
Try to pick a segment small enough so that you can become the leader. Rolls Royce is the true guerrilla. They concentrate on a small market segment and are its leader.
2. Guerrillas should be all line and no staff
A guerrilla can take advantage of its small size to make quick decisions. This can be a precious asset when competing with the big national companies.
3. Be prepared to bug out at a moment's notice
Don't hesitate to abandon a position or a product if the battle turns against you. A guerrilla doesn't have the resources to waste on a lost cause. He should be quick to give up and move on. in a small company, one person's hunch can be enough to launch a new product. e.g.. Robert Gamm a footwear importer introduced 'KangaRoos' -zippered pocket on side of shoes.

[edit]Strategies of Guerrilla Marketing

1. Price discount strategy
The challenger can sell a comparable product at lower price. it is apparent in price wars in airlines, tariff wars in telecom industry.
2. Cheaper goods strategy
The idea is to offer an average or low quality product at much lower price. This works when the buyer is interested only in price.
3. Prestige goods strategy
The challenger can launch a higher quality product and charge a higher price than the leader.
4. Product proliferation strategy
Challenger can attack the leader by launching a larger product variety, thus offering more choice to the buyer.
5. Product innovation
6. Improved service strategy
7. Distribution Innovation strategy
Developing new channels of distribution. Like direct selling to customers.
8. Manufacturing cost reduction strategy
Employing lower manufacturing cost through more efficient purchasing.
9. Intensive advertising promotion
The challenger engages in a rigorous advising program.

Viral marketing

Time to study:

Viral marketing, viral advertising, or marketing buzz are buzzwords referring to marketing techniques that use pre-existing social networks to produce increases in brand awareness or to achieve other marketing objectives (such as product sales) through self-replicating viral processes, analogous to the spread of viruses or computer viruses (cf. memes and memetics). It can be delivered by word of mouth or enhanced by the network effects of the Internet.[1] Viral marketing may take the form of video clips, interactive Flash games, advergames, ebooks, brandable software, images, or text messages.

The ultimate goal of marketers interested in creating successful viral marketing programs is to create viral messages that appeal to individuals with high social networking potential (SNP) and that have a high probability of being presented and spread by these individuals and their competitors in their communications with others in a short period of time.

The term "viral marketing" has also been used pejoratively to refer to stealth marketing campaigns—the unscrupulous use of astroturfing online combined with undermarket advertising[clarification needed] in shopping centers to create the impression of spontaneous word of mouth enthusiasm.[2]


History

The emergence of "viral marketing," as an approach to sales, has been tied to the popularization of the notion that ideas spread like viruses. The field that developed around this notion, memetics, peaked in popularity in the 1990s.[3] As this then began to influence marketing gurus, it took on a life of its own in that new context.

There is debate on the origination and the popularization of the specific term viral marketing, though some of the earliest uses of the current term are attributed to the Harvard Business School graduate Tim Draperand faculty member Jeffrey Rayport. The term was later popularized by Rayport in the 1996 Fast Company article "The Virus of Marketing,"[4] and Tim Draper and Steve Jurvetson of the venture capital firm Draper Fisher Jurvetson in 1997 to describe Hotmail's practice of appending advertising to outgoing mail from their users.[5]

Among the first to write about viral marketing on the Internet was the media critic Douglas Rushkoff.[6] The assumption is that if such an advertisement reaches a "susceptible" user, that user becomes "infected" (i.e., accepts the idea) and shares the idea with others "infecting them," in the viral analogy's terms. As long as each infected user shares the idea with more than one susceptible user on average (i.e., the basic reproductive rate is greater than one—the standard in epidemiology for qualifying something as an epidemic), the number of infected users grows according to an exponential curve. Of course, the marketing campaign may be successful even if the message spreads more slowly, if this user-to-user sharing is sustained by other forms of marketing communications, such as public relations or advertising.[citation needed]

Bob Gerstley was among the first to write about algorithms designed to identify people with high Social Networking Potential.[7] Gerstley employed SNP algorithms in quantitative marketing research. In 2004, the concept of the alpha user was coined to indicate that it had now become possible to identify the focal members of any viral campaign, the "hubs" who were most influential. Alpha users could be targeted for advertising purposes most accurately in mobile phone networks, as mobile phones are so personal. {citation needed|date=January 2011}

[edit]Functioning

According to marketing professors Andreas Kaplan and Michael Haenlein,[8] to make viral marketing work, three basic criteria must be met, i.e., giving the right message to the right messengers in the right environment:

  1. Messenger: Three specific types of messengers are required to ensure the transformation of an ordinary message into a viral one: market mavens, social hubs, and salespeople. Market mavens are individuals who are continuously ‘on the pulse’ of things (information specialists); they are usually among the first to get exposed to the message and who transmit it to their immediate social network. Social hubs are people with an exceptionally large number of social connections; they often know hundreds of different people and have the ability to serve as connectors or bridges between different subcultures. Salespeople might be needed who receive the message from the market maven, amplify it by making it more relevant and persuasive, and then transmit it to the social hub for further distribution. Market mavens may not be particularly convincing in transmitting the information.
  2. Message: Only messages that are both memorable and sufficiently interesting to be passed on to others have the potential to spur a viral marketing phenomenon. Making a message more memorable and interesting or simply more infectious, is often not a matter of major changes but minor adjustments.
  3. Environment: The environment is crucial in the rise of successful viral marketing – small changes in the environment lead to huge results, and people are much more sensitive to environment. The timing and context of the campaign launch must be right.

Whereas Kaplan, Haenlein and others reduce the role of marketers to crafting the initial viral message and seeding it, futurist and sales and marketing analyst Marc Feldman, who conducted IMT Strategies’ landmark viral marketing study in 2001,[9] carves a different role for marketers which pushes the ‘art’ of viral marketing much closer to ‘science.’[10]

Feldman points out that when marketers take a disciplined approach to viral marketing by targeting, measuring and continually optimizing their campaigns based on campaign metrics, viral marketing transforms the customer into a new sales channel, a new lead generation channel and a new awareness generating channel. Feldman's innovative reconceptualization of viral marketers went a long way towards making "viral marketing" a strategy that sales and marketing directors at Fortune 500 and Global 1000 companies could legitimately invest in. This disciplined approach to Viral Marketing that Feldman first carved out, pointed the way towards measuring the ROI of every viral marketing campaign and thus making a real business case for investing in viral marketing. The customer-as-a-sales-channel approach to viral marketing went on to become the foundation for an explosion of technology enabled viral marketing services offered online, offline and in blended hybrid approaches.

[edit]Notable examples

The Ponzi scheme and related investment pyramid schemes are early examples of viral marketing. In each round, investors are paid interest from the principal deposits of later investors. Early investors enthusiastically recruit their friends, generating exponential growth until the pool of available investors is tapped out and the scheme collapses.[11]

Early in its existence (perhaps between 1988 and 1992), the television show Mystery Science Theater 3000 had limited distribution. The producers encouraged viewers to make copies of the show on video tapesand give them to friends in order to expand viewership and increase demand for the fledgling Comedy Central network. During this period the closing credits included the words "Keep circulating the tapes!"[12]

In 2000, Slate.com described TiVo's unpublicized gambit of giving free systems to web-savvy enthusiasts to create "viral" word of mouth, pointing out that a viral campaign differs from a publicity stunt.[13]

Both the second and third games in the Halo series were preceded with viral marketing in the form of an alternate reality game called I Love Bees for the second game, and Iris for the third game.[citation needed]

Burger King has used several marketing campaigns. Its The Subservient Chicken campaign, running from 2004 until 2007, was an example of viral or word-of-mouth marketing.[14] Burger King's launched its "Whopper Sacrifice" campaign in 2009.[citation needed]

The Blendtec viral video series Will It Blend? debuted in 2006.. In the show, Tom Dickson, the Blendtec founder, attempts to blend various unusual items in order to show off the power of his blender. Will it Blend?has been nominated for the 2007 YouTube award for Best Series, winner of .Net Magazine's 2007 Viral Video campaign of the year and winner of the Bronze level Clio Award for Viral Video in 2008.

Cadbury's Dairy Milk 2007 Gorilla advertising campaign was heavily popularised on YouTube and Facebook.[citation needed]

The 2007 concept album Year Zero by Nine Inch Nails employed a viral marketing campaign, including the band leaving USB drives at concerts during NIN's 2007 European Tour. This was followed up with analternate reality game using series of interlinked websites revealing clues and information about the dystopian future in which the album is set.[citation needed]

In 2007, World Wrestling Entertainment promoted the return of Chris Jericho with a viral marketing campaign using 15-second cryptic binary code videos. The videos contained hidden messages and biblical links related to Jericho, although speculation existed throughout WWE fans over whom the campaign targeted.[15][16] The text "Save Us" and "2nd Coming" were most prominent in the videos. The campaign spread throughout the internet with numerous websites, though no longer operational, featuring hidden messages and biblical links to further hint at Jericho's return.[17][18]

In 2007, Portuguese football club Sporting Portugal integrated a viral feature in their campaign for season seats. In their website, a video required the user to input his name and phone number before playback started, which then featured the coach Paulo Bento and the players waiting at the locker room while he makes a phone call to the user telling him that they just can't start the season until the user buys his season ticket.[19] Flawless video and phone call synchronization and the fact that it was a totally new experience for the user led to nearly 200,000 pageviews phone calls in less than 24 hours.[citation needed]

The Big Word Project, launched in 2008, aimed to redefine the Oxford English Dictionary by allowing people to submit their website as the definition of their chosen word. The project, created to fund two Masters students' educations, attracted the attention of bloggers worldwide, and was featured on Daring Fireball and Wired Magazine.[20]

The marketing campaign for the 2008 film The Dark Knight combined both online and real-life elements to make it resemble an alternate reality game. Techniques included mass gatherings of Joker fans, scavenger hunts around the world, detailed and intricate websites that let fans actually participate in "voting" for political offices in Gotham City, hidden phone numbers and websites in the queue lines of The Dark Knight roller coasters at Six Flags Great America and Six Flags Great Adventure, and even a Gotham News Network that has links to other Gotham pages such as Gotham Rail, a Gotham travel agency, and political candidate's pages. The movie also markets heavily off of word of mouth from the thousands of Batman fans.[citation needed]

In 2009 American rapper Eminem heavily promoted his new album Relapse with the fictional rehabilitation center Popsomp Hills (pronounced: Pop some pills) by shooting the music video for the song 3 a.m. (Eminem song) in the building of the rehabilitation center. He mentions Popsomp Hills in various tracks on Relapse and his newest album Recovery. He also mocks some other rehabilitation centers like the Brighton Rehabilitation Center in the song 'Underground' with the line 'Two weeks in Brighton, I ain't enlightened'. After the Eminem campaign, the rehabilitation center had many more visits.

Between December 2009 and March 2010 a series of seven videos were posted to YouTube under the name "iamamiwhoami" leading to speculation that they were a marketing campaign for a musician. In March 2010, an anonymous package was sent to an MTV journalist claiming to contain a code which if cracked would give the identity of the artist.[21] The seventh video, entitled 'y', appears to feature the Swedish singerJonna Lee.[22][23][24][25]

On July 14, 2010, Old Spice launched the fastest growing online viral video campaign ever, garnering 6.7 million views after 24 hours, ballooning over 23 million views after 36 hours.[26] Old Spice's agency created a bathroom set in Portland, OR and had their TV commercial star, Isaiah Mustafa, reply to 186 online comments and questions from websites like Twitter, Facebook, Reddit, Digg, Youtube and others. The campaign ran for 3 days.[27]

Viral marketing has also been used to bring about flash mobs.

[edit]Methods

  • Customer participation & polling services
  • Industry-specific organization contributions
  • Internet search engines & blogs
  • Mobile smartphone integration
  • Multiple forms of print and direct marketing
  • Outbound/inbound call center services
  • Target marketing Web services
  • Search engine optimization (SEO) web development
  • Social media interconnectivity
  • Television & radio

VMS target marketing is based on three important principles:

  1. Social profile gathering
  2. Proximity market analysis
  3. Real-time key word density analysis

By applying these three important disciplines to an advertising model, a VMS company is able to match a client with their targeted customers at a cost effective advantage.

The Internet makes it possible for a campaign to go viral very fast. However,the Internet and in particular, social media technologies do not make a brand viral; they just enable people to tell other people faster. The Internet can, so to speak, make a brand famous overnight.

[edit]Social networking growth

Two thirds of the world’s Internet population now visit a social network or blog site weekly.[28] 220+ million people visit the top 25 social networks each month.[29] Facebook has 500+ million active users.[30] Time spent visiting Social media sites now exceeds time spent emailing.[31] 52% of people who find news online forward it on through social networks, email, or posts.[32] 59% of adults polled state that they use their cell phone to remain connected with their social network.[33]